จนท.สบอ. 9 ทยอยพบ ตร. ปปป. ตามหมายเรียกคดีอธิบดีอุทยานฯเรียกสินบน-ผบ.ปปป.เผยทุกคนเป็นผู้เดือดร้อน แต่เกรงกลัวอำนาจเลยต้องยอมจ่ายเงินให้อธิบดีฯ ขณะหนึ่งงบดูแลสัตว์ป่าถูกตัดถึง 70 เปอร์เซ็นต์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กลุ่มเจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.)ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ทยอยเดินทางเข้าพบตามหมายเรียกเพื่อให้ปากคำต่อ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.1 บก.ปปป. และ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จากกรณีที่ ถูกนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช เรียกรับเงินโยกย้ายตำแหน่ง
สำหรับกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางมาให้ปากคำในวันนี้ มีด้วยกัน 17 คน อยู่ในระดับหัวหน้าหน่วย และเจ้าหน้าที่ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมี 14 คน ที่นำเงิน จำนวน 98,000 บาท ไปให้นายรัชฎา , กลุ่มที่ 2 พยานที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน จากการที่นายรัชฎา เรียกรับเงิน 3 คน ซึ่งขณะนี้ทยอยเดินทางมาเข้าพบแล้วบางส่วน
ทั้งนี้สำหรับพยานทั้ง 17 รายที่จะเข้าให้ปากคำในวันนี้อยู่ในกลุ่มพยาน 19 คน ที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี นำข้อมูลมาให้เจ้าหน้าที่ ปปป. โดยก่อนหน้านี้มีพยานบุคคลที่เข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ไปแล้ว 2 ราย คือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และ เจ้าหน้าที่อีกราย
นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนยังได้มีการออกหมายเรียกกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ปรากฎรายชื่อบนซองเงินของกลาง จำนวน 8 หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานมาเข้าให้ปากคำเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับที่ไปที่มาของซองเงินดังกล่าว ในวันที่ 11–12 ม.ค. ที่จะถึงนี้
สำนักข่าวอิศรารายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมว่าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มาให้ปากคำในวันนี้นั้นเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเรียกรับเงิน และจากการสอบปากคำ ทุกคนให้การเป็นประโยชน์และเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าถูกบังคับโดยส่วนใหญ่ไม่ยินยอมและไม่สมัครใจ แต่สาเหตุที่ยินยอมเพราะเกรงกลัวอำนาจจึงยอมทำตามข้อเรียกร้องของนายรัชฎา
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนรายชื่อที่ปรากฏบนซองเงินของกลางภายในห้องทำงานจำนวน 21 ซอง สามารถตรวจสอบทราบบุคคลได้แล้ว 14 คนซึ่งเป็นระดับหัวหน้าของหน่วยงานนั้นๆที่กล่าวอ้างว่า ถูกเรียกเก็บเงิน ล่าสุดได้ออกหมายเรียกแล้ว 6 คนให้มาวันที่ 11 มกราคม และจะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 8 คนให้มาในวันที่ 12 มกราคม เวลา 10:00 น. ซึ่งมีบางส่วนยินยอมจะเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน ส่วนใครจะมาหรือไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็เป็นสิทธิของพยาน แต่ในทางคดี อนาคตพยานก็จะถูก ป.ป.ช.เรียกสอบปากคำในภายหลังเพิ่มเติมอยู่ดี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องการสอบเส้นทางการเงิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงปลายทางของเงินที่ถูกเรียกเก็บ แต่ยืนยันว่าหากเชื่อมโยงถึงใคร ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่มีการกระแสข่าวว่าหลังจากที่นายรัชฎาได้รับการประกันตัวแล้วจะเข้ายุ่งเหยิงข่มขู่กับพยานหลักฐานหรือไม่นั้น ในส่วนนี้จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการไปยุ่งเหยิงหรือข่มขู่พยานแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนสอบปากคำ หนึ่งในพยานที่มาให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เปิดเผยว่า ยอมรับว่า การให้ข้อมูลครั้งนี้อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคต แต่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ จำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องของการถูกตัดงบประมาณการดูแลป่าและสัตว์ป่า ขณะที่ในส่วนของการทำงานมีความยากลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าคดีความที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและหน่วยงานทั้งหมด ดังนั้นจึงอยากให้สังคมเข้าใจการทำงานของบุคลากรกรมอุทยานฯ เพราะที่ผ่านมาหลายคนมีปัญหาเรื่องหนี้สิน เนื่องจากงบประมานการดูแลสัตว์ป่าถูกตัดออกไปมากถึง 70% ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาใช้ใน ในการปฎิบัติหน้าที่ และดูแลลูกน้อง
พยานคนดังกล่าวเปิดเผยต่ออีกว่า ขณะที่ในส่วนของการให้ปากคำ รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้เป็นไปตามกฏหมาย ส่วนรายละเอียดของคดีก็เป็นไปตามที่หัวหน้า ชัยวัฒน์ร้องเรียนไว้ ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่า มีการข่มขู่พยานในคดี สำหรับตนเองนั้นยังไม่ได้รับการข่มขู่จากใครแต่อย่างใด และไม่มีการกดดันจากผู้ใหญ่ในกระทรวง ส่วนคนอื่นไม่ทราบ แต่ส่วนตัวไม่ได้กลัวการถูกข่มขู่ แต่กลัวสิ่งที่เจ้าหน้าที่ปกป้องผืนป่ามาจะสูญเปล่า