รองโฆษก อสส. -ผบ.ตร.แถลงความคืบหน้าคดี "ตู้ห่าว" ออกหมายจับเพิ่ม 12 หมายช่วงสิ้นปี 65 จับผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 2 คน เล็งขยายผลดำเนินคดีต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันพุธที่ 4 มกราคม 2566 เวลา 11.00 น. นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สํานักงานการสอบสวน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการ สํานักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ในฐานะรองโฆษก สํานักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย พล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงความคืบหน้า การสอบสวนคดีนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ กับพวก ณ ห้องประชุม 120 ปี ขั้น 1 สํานักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตามที่อัยการสูงสุด ได้มีคําสั่งมอบหมายพนักงานสอบสวน โดยให้พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตํารวจนครบาล กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีทําการสอบสวน และพนักงานอัยการ สํานักงานการสอบสวน สํานักงานคดียาเสพติด สํานักงานต่างประเทศร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวนและให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ วันนี้ได้มีการประชุมคณะทํางาน กํากับการสอบสวนและการดําเนินคดีสําคัญ ซึ่งมีนางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด และพล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติในฐานะที่ปรึกษาเข้าร่วมประชุม
โดยนายสมเกียรติ คุณวัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุด หัวหน้าคณะทํางาน และคณะทํางานฯ ได้รายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ กับพวก โดยพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวนได้ดําเนินการร่วมกันสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ได้รวบรวม พยานหลักฐานขอให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้วรวม 25 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้จํานวน 17 คน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ได้ขออนุมัติให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 12 หมาย และสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้จํานวน 2 คน ได้แก่ MR.FUJIZING และนายกฤติธี เหมหงส์ ในความผิดที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหา 12 หมาย เป็นความผิดฐานสมคบกันเพื่อกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้สมคบกัน โดยการกระทํามีลักษณะเป็นการกระทําขององค์กรอาชญากรรม ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภท 2 ไว้ในครอบครอง และจําหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทําเพื่อการค้า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทําความผิด ฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน จํานวน 2 หมายและความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินจํานวน 10 หมาย และคณะทํางานฯ จะพิจารณาขยายผลการสอบสวนดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิดต่อไป