ทั่วโลกทยอยฉลองปีใหม่หลังผ่านวิกฤติโควิด หวังปี 2566 ดีกว่าเดิม ซิดนีย์จุดพลุยิ่งใหญ่ ขณะจีนยังจัดงานแม้ผู้ติดเชื้อพุ่ง ส่วนยูเครนงดเพราะติดเคอร์ฟิว แต่เซเลนสกีอวยพรขอให้เป็นปีแห่งชัยชนะ ด้านอังกฤษจุดพลุให้กำลังใจยูเครนหลังถูกขีปนาวุธถล่มกว่า 20 ลูก ขณะที่ไทม์สแควร์มีผู้ร่วมงานคึกคัก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวบรรยากาศการเฉลิมฉลองปีใหม่ 2566 ในต่างประเทศ
ทั้งนี้บรรยากาศในหลายประเทศนั้นถือว่าเป็นการฉลองปีใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่วิกฤติโรคระบาดโควิดได้ผ่านพ้นไป ซึ่งประชาชนในหลายประเทศต่างคาดหวังว่าปี 2566 จะเป็นปีที่ดีกว่าปี 2565 ที่มีเรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย
โดยที่ประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นประเทศแรกของโลกที่ได้มีเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่หลังจากที่ต้องหยุดไปเพราะข้อจำกัดเรื่องโควิด-19 โดยมีการจุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองกันนับพันดอกที่สะพานฮาร์เบอร์แลนด์มาร์คชื่อดังในนครซิดนีย์ และจุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองกันที่ซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์
เทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ที่นครซิดนีย์ (อ้างอิงวิดีโอจาก Fox 35)
ขณะที่ประเทศจีนซึ่งเพิ่งจะมีการยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดในเดือน ธ.ค. แต่ก็ปรากฎกรณีของผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากทำให้ไม่ค่อยมีผู้ที่อยากจะออกมาเฉลิมฉลองเท่าไรนัก
“ไวรัสควรตายจากไปได้แล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในปีนี้ผมไม่สามารถหาเพื่อนที่มีสุขภาพดีไปร่วมฉลองปีใหม่ได้” ชายเน็ตคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกของมณฑลชานตงกล่าว
ส่วนคนอื่นๆก็หวังว่าในปี 2566 ประเทศจีนจะสามารถกลับมาอยู่ในภาวะปกติในรูปแบบก่อนการระบาดครั้งใหญ่ได้
“ผมใช้ชีวิตอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโควิดมาตลอดปี 2565 ผมหวังว่าปี 2566 จะเป็นช่วงเวลาที่ทุกอย่างกลับไปสู่ช่วงก่อนปี 2563”ชาวเน็ตอีกคนที่อยู่ในมณฑลเจียงซูกล่าว
ส่วนที่เมืองอู่ฮั่น ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคระบาดเมื่อสามปีก่อน ผู้คนนับหมื่นก็มาเฉลิมฉลองท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดในการรวมตัวกันของฝูงชนขนาดใหญ่นับตั้งแต่การประท้วงเมื่อปลายเดือน พ.ย.จนเป้นเหตุทำให้ทางการจีนต้องยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์
มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ได้ห้ามไม่ให้ประชาชนไปรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งเป็นที่ยอดนิยมในการจัดงานอย่างน้อย 1 จุด และประกาศข้อความยิงซ้ำสั้นๆแนะนำไม่ให้ผู้คนรวมตัวกัน
งานฉลองปีใหม่ที่อู่ฮั่น (อ้างอิงวิดีโอจาก Federal)
“เพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อความปลอดภัยของคุณ พยายามอย่ารวมตัวกันหรือว่าหยุด”ข้อความเจ้าหน้าที่ประกาศถึงผู้มาร่วมงานเฉลิมฉลอง
ส่วนที่ฮ่องกงที่เพิ่งจะยกเลิกมาตรการการจำกัดการรวมตัวของฝูงชน ก็มีรายงานของผู้ที่มารวมตัวนับหมื่นคนที่อ่าววิกตอเรียเพื่อจะเคาน์ดาวน์ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นงานฉลองปีใหม่ที่สุดในรอบหลายปีของฮ่องกง โดยในปี 2562 ฮ่องกงต้องยกเลิกจัดงานฉลองปีใหม่เนื่องจากความไม่สงบและตามมาด้วยวิกฤติโรคระบาดในปี 2563-2564
ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศยกเลิกการเคาน์ดาวน์และจุดดอกไม้ไฟที่จัตุรัสเมอร์เดก้าหลังจากเหตุน้ำท่วมทั่วประเทศและเหตุดินถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 รายในเดือน ธ.ค. ขณะที่การฉลองที่ตึกเปโตรนาสก็ถูกลดขนาดลงเช่นกันโดยไม่มีการแสดงหรือการจุดดอกไม้ไฟ
ขณะที่ประเทศยูเครนมีรายงานว่าเนื่องจากประเทศยังอยู่ในภาวะสงครามจึงมีการประกาศเคอร์ฟิวในเวลา 19.00 น. ทำให้การเฉลิมฉลองในที่สาธารณะไม่สามารถทำได้ โดยผู้ว่าการในหลายท้องที่ยังคงออกประกาศเตือนผ่านโซเชียลมีเดียห้ามไม่ให้มีการละเมิดมาตรการในช่วงปีใหม่ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเฉลิมฉลองไม่ได้ก็ยังมีชาวยูเครนบางคนประดับต้นคริสมาสต์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโวโลโดเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนได้โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่าชาวยูเครนได้สร้างปาฏิหาริย์ กองกำลังของยูเครนเต็มไปด้วยความศรัทธาและความหวัง ชาวยูเครนมีแสงอยู่ในตัวทุกคนแม้จะไม่มีไฟฟ้าใช้ สุขสันต์ปีใหม่ ขอให้เป็นปีแห่งชัยชนะ
โดยบรรยากาศทั้งวันที่ในช่วงวันขึ้นปีใหม่และวันสิ้นปีที่ประเทศยูเครนยังคงมีเสียงไซเรนเตือนภัยดังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากว่ากองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธมากกว่า 20 ลูก โดยมีเป้าหมายโรงแรมและอาคารบ้านเรือนในกรุงเคียฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน บาดเจ็บอีก 22 คน ส่วนพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน และทางตะวันตกของประเทศ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน
อ้างอิงวิดีโอจากเดอะการ์เดียน
ส่วนที่ประเทศรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้มีการปราศรัยขอให้ประชาชนรัสเซียให้การสนับสนุนกองทัพของเขาในการต่อสู้ในยูเครน
สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีเซเลนสกี (อ้างอิงวิดีโอจาก Tribun Timur)
ขณะที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสก็ได้มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่เป็นครั้งแรกเช่นกันนับจากปี 2562โดยได้มีการจุดดอกไม้ไฟเป็นเวลานานติดต่อกัน 10 นาที ซึ่งคาดว่าจะมีฝูงชนกว่า 500,000 คนรวมตัวกัน ณ ถนนช็องส์-เอลิเซ่ เพื่อรับชมการแสดงดอกไม้ไฟ
อย่างไรก็ตามในประเทศอื่นๆในยุโรปเช่นกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กได้ประกาศงดการแสดงดอกไม้ไฟ โดยก่อนหน้านี้เช็กต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ
ส่วนที่กรุงลอนดอน ที่ชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอายส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองได้มีการฉายไฟสีฟ้าเหลืองเป็นรูปธงชาติยูเครนพร้อมกับการจุดดอกไม้ไฟในเวลาเที่ยงคืน โดยนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนกล่าวว่างานเฉลิมฉลองที่กรุงลอนดอนนั้นถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป
ขณะที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ณ จัตุรัสไทม์สแควร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คแห่งสำคัญของสหรัฐฯ ได้มีกาารจุดพลุและเปิดไฟเฉลิมฉลองการเข้าสู่ปีใหม่ 2566 เมื่อเข้าสู่เที่ยงคืนตรงตามเวลาท้องถิ่น
บรรยากาศที่ไทม์สแควร์ (อ้างอิงวิดีโอจาก CBS)
แม้มีฝนโปรยปรายลงมาในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงการนับถอยหลัง แต่บรรยากาศของการเฉลิมฉลองยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากเป็นปีแรกที่เทศบาลนครนิวยอร์กไม่จำกัดการจำนวนผู้เข้าร่วมงาน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม มาตรการรักษาความปลอดภัยยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวดในระดับสูงสุด
เรียบเรียงจาก:https://www.reuters.com/world/asia-pacific/australia-ring-2023-with-no-covid-restrictions-2022-12-31/