ทร.เผยความคืบหน้าค้นหาผู้เสียชีวิตเรือสุโขทัยอับปาง ล่าสุดเจอผู้เสียชีวิตแล้ว 18 นาย จ่อพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป ยังสูญหายอีก 11 นาย วางกำลัง 53 นักประดาน้ำงมหาร่างผู้สูญหายแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 ธ.ค.พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษก กองทัพเรือ ตลอดทั้งวัน เรือและอากาศยานได้เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ขึ้นมาจากน้ำได้รวม 3 ร่าง จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของทางนิติเวช ซึ่งศพที่พบทั้ง 3 รายนั้น คาดว่าจะใช้เวลาในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยการตรวจดีเอ็นเอประมาณ 3-4 วัน จึงจะสามารถยืนยันตัวบุคคลได้ และมีรายงานว่าจากผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 1 ราย สามารถยืนยัน รายชื่อผู้เสียชีวิต ว่าคือ พลทหารวรพงษ์ บุญละคร สังกัด หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานทางรักษาฝั่ง โดยในวันที่ 26 ธ.ค.จะมีการเคลื่อนศพ พลทหารวรพงษ์ จาก โรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ของกองทัพเรือ จากกองบิน 6 ไปยัง สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี โดยจะเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภาในเวลา 15.00 น. ซึ่งมีรายงานว่า พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)จะเดินทางไปร่วมในพิธีรับศพ ก่อนที่จะนำไปประกอบพิธี ที่ฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ
พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า สำหรับในวันนี้ (25 ธ.ค.)เวลา 13.30 น. พล.ร.ต.สมรภูมิ จันโท รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ ที่ เมรุวัดราวนคร ต.คูตัน อ.กาบเชิงจ.สุรินทร์ ส่วนในวันที่ 26 ธ.ค.เวลา 13.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย จะเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าที่ เรือเอก สามารถ แก้วผลึก พันจ่าเอกอัชชา แก้วสุพรรณ์ และ พันจ่าเอก อำนาจ พิมที ที่ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัยวันนี้ (25 ธ.ค.)เวลา 17.00 น.ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต 76 นาย เสียชีวิตรวม 18 นาย จำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 7 นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 11 นาย ( 1 ราย ก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือนั้น ขณะนี้มีหลักฐานยืนยันแล้วว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ ) ทำให้คงเหลือผู้สูญหาย 11 นาย
พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวอีกว่า พล.ร.อ.เชิงชาย ได้ลงนามใน ประกาศศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.เรื่องการประกาศเขตการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เนื่องด้วยในระหว่างวันที่ 18-19 ธ.ค.2575 ได้เกิดเหตุเรืออับปางในทะเล 3 ลำคือเรือขนตู้คอนเทนเนอร์ สันทัดสมุทร 2 ได้อับปางลงในตำบลที่ละติจูด 09 องศา 28.699 ลิปดาเหนือลองจิจูด 99 องศา 19 ลิปดาตะวันออก เรือหลวงสุโขทัย ได้อับปางลงในตำบลที่ละติจูด 11 องศา 0.39 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 99 องศา 53.94 ลิปดาตะวันออก และ เรือ AnUBhum ได้อับปางลงในตำบลที่ละติจูด 10 องศา 46.41 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 99 องศา 33.56 ลิปดาตะวันออก ดังนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินเรือและไม่เป็นการกีดขวางการปฏิบัติหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับเตรียมการปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันในทะเลที่อาจรั่วไหลออกจากเรืออับปางจึงได้มีการประกาศเขตการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 3 พื้นที่ ในบริเวณที่เรือทั้ง 3 ลำ อับปาง จึงขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน
ขณะที่ก่อนหน้านี้นาวาเอกพงษ์ศักดิ์ รามนุช ผู้อำนวยการกองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ นำกำลังนักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่แพทย์ รวม 53 นาย เปิดปฏิบัติการงมค้นหาร่างผู้สูญหาย และสำรวจตัวเรือ โดยใช้เรือหลวงราวีเป็นศูนย์ปฏิบัติการ ณ พิกัดเรือหลวงสุโขทัยจม
นาวาเอกพงษ์ศักดิ์ รามนุช เผยว่า หลังได้รับสั่งการจากผู้บัญชาการทหารเรือให้นำนักประดาน้ำปูพรมงมค้นหาร่างผู้สูญหายที่เชื่อว่าอาจยังอยู่บริเวณจุดเรือจม อีกทั้งภารกิจตรวจสอบเรือ โดยเน้นย้ำให้กำลังพลทุกนายคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก จะต้องไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นอีก
สำหรับภารกิจในวันนี้น้ำทะเลมีระดับความลึกราว 40 เมตร ใต้ทะเลมีกระแสน้ำแรง เบื้องต้นนักประดาน้ำจะตรวจสอบอยู่บริเวณรัศมีโดยรอบ จะไม่เข้าไปในตัวเรือ หรือบริเวณใกล้ตัวเรือมาก เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเรือยังอยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคง มีโอกาสถูกคลื่นซัดพลิก หรือเคลื่อนตัวได้ ซึ่งหากมีความคืบหน้าในเรื่องนี้จะรายงานผลเพื่อทราบในโอกาสต่อไป