สน.พหลโยธินเผยความคืบหน้าติดตามคดี 'ใครช่วยประสิทธิ์ เจียวก๊กหลบหนี' ล่าสุดจับเลขาหญิงคนสนิท กำลังสอบขยายผลเอี่ยวช่วยหลบหนี ก่อนขอศาลฝากขัง 26 ธ.ค. รับต้องประสานราชทัณฑ์ปมใครหากุญแจเครื่องพันธนาการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่ากรณีความคืบหน้าการติดตามตัวอีก 1 ผู้ช่วยเหลือนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนชื่อดัง หลบหนีจากศาลอาญาระหว่างการพิจารณาของศาลฯ หลังจากสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 รายและส่งฝากขังเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นหญิงสาว อีก1 ราย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขาคนสนิทของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อีกคน ข้อหาผู้สนับสนุนให้ผู้ต้องขังในอำนาจของศาลหลบหนี/ละเมิดอำนาจศาล
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า หลังศาลออกหมายจับหญิงสาวเลขาฯอีกคนของนายประสิทธิ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบปากคำขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 ธ.ค.ทางพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ.8) ปฏิบัติราชการสอบสวนกลาง กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการขณะนี้ ทางชุดสืบสวนทราบผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดแล้วและได้แจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งนำตัวมาฝากขังเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขั้นตอนจากนี้ทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบหมายให้ชุดทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกมิติ เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้การสนใจและเป็นการกระทำที่อุกอาจ โดยจะขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการในการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อมูลการติดต่อระหว่างกลุ่มของผู้ให้การช่วยเหลือกับตัวของนายประสิทธิ์ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ทางชุดสืบสวนตั้งสมมุติฐานว่าอาจมีคนในให้การช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้
พล.ต.ท.สันติ กล่าวอีกว่า เนื่องจากขั้นตอนในการหลบหนีตัวของนายประสิทธิ์ มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการนำกุญแจมาปลดเครื่องพันธนาการ ซึ่งเรื่องกุญแจทางชุดทำงานได้สอบสวนร่วมกับทางราชทัณฑ์ อีกทั้งทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน และอยู่ระหว่างการรอผลสรุปกับทางราชทัณฑ์ส่งมาให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขณะเดียวกันชุดสืบสวนได้สืบสวนทางลับควบคู่ไปด้วย ซึ่งทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้ประสานข้อมูลกับทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์อย่างใกล้ชิดถึงเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เกิดเหตุ เพื่อที่จะให้ได้คลายข้อเท็จจริงโดยเร็ว