‘การทางพิเศษแห่งประเทศไทย’ นับหนึ่งประมูลทางด่วนกะทู้ - ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. วงเงิน 1.7 หมื่นล. เปิดขายซอง 25 ธ.ค. 65 - 25 ม.ค. 66 ก่อนเปิดยื่นซองข้อเสนอ 7 เม.ย. 66 ส่องคุณสมบัติเข้ม มีประสบการณ์ทำทางยกระดับ งาน 500 ล้านขึ้นไป-บริหารทางด่วนไม่น้อยกว่า 25 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 ธันวาคม 2565 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนในโครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. วงเงิน 17,811 ล้านบาท เพื่อให้มาซื้อซองเอกสารเชิญชวนยื่นข้อเสนอ (Request For Proposal : RFP) ระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2565 - 25 ม.ค. 2566 ราคาซองละ 200,000 บาท สามารถซื้อเพิ่มในราคา 20,000 บาท
@ยื่นซอง 7 เม.ย. 66
โดยวางกำหนดยื่นซองข้อเสนอโครงการในวันที่ 7 เม.ย. 2566 เวลา 09.00 - 15.00 น. และจะเริ่มเปิดพิจารณาซองข้อเสนอในวันที่ 28 เม.ย. 2566 ซึ่งผู้ยื่นซองต้องวางหลักประกันซอง 300 ล้านบาท สำหรับซองข้อเสนอที่เอกชนจะต้องทำมา มี 4 ซอง ประกอบด้วย
ซองที่ 1 คุณสมบัติ การประเมินแบบผ่าน-ไม่ผ่าน
ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค คะแนนรวม 100 คะแนน ประกอบด้วย ความพร้อม การสนับสนุน และความสามารถทางการเงิน 15 คะแนน, ประสบการณ์และผลงานที่เคยดำเนินการตลอดความน่าเชื่อถือ 5 คะแนน, โครงสร้างและความสามารถของบุคลากรในการบริหารงาน 10 คะแนน, แนวทางและวิธีการดำเนินงานสำหรับงานระยะที่ 1 รวมถึงความสอดคล้องของเอกสารข้อเสนอ เมื่อเปรียบเทียบกับเอกสารคัดเลือกเอกชน 40 คะแนน และแนวทางและวิธีการดำเนินงานสำหรับงานระยะที่ 2 รวมถึงความสอดคล้องของเอกสารข้อเสนอ เมื่อเปรียบเทียบกับเอกสารคัดเลือกเอกชน 30 คะแนน
ซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน พิจารณาจากมูลค่าปัจจุบัน (PV) ของผลตอบแทนที่ผู้ยื่นข้อเสนอให้ กทพ. สูงสุด
และซองที่ 4 ข้อเสนออื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ
@ทุนไทยถือหุ้นนิติบุคคล 51% ทุนจดทะเบียน 1.1 พันล้าน
ส่วนรายละเอียดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ จะเป็นนิติบุคคลไทยตามกฎหมายที่จดทะเบียนในไทยรายเดียวเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี นับถึงวันยื่นข้อเสนอ หรือจะเป็นนิติบุคคลหลายรายรวมกัน ซึ่งจะต้องมีนิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 รายร่วมด้วยและต้องจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 3 ปี นับถึงวันยื่นข้อเสนอ รวมถึงจะต้องเป็นผู้นำกลุ่มด้วย และต้องมีสัดส่วนในนิติบุคคดังกล่าวไม่น้อยกว่า 35% นอกจากนั้น นิติบุคคลไทยต้องถือสัดส่วนลงทุนไม่น้อยกว่า 51%
กรณีนิติบุคคลรายเดียว ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 1,100 ล้านบาทในวันลงนามในสัญญา ส่วนกลุ่มนิติบุคคล ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 1,100 ล้านบาท
@ส่องคุณสมบัติ ต้องเคยสร้างทางยกระดับ 500 ล้าน - บริหารทางด่วน 25 ปี
ขณะที่คุณสมบัติทางด้านเทคนิค ประสบการณ์และผลงาน จะต้องมีผลงานการก่อสร้างทางยกระดับ (Elevated Structure) จะเป็นถนน ทางรถไฟฟ้า หรือทางรถไฟก็ได้ แต่ต้องมีมูลค่างานไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และต้องมีประสบการณ์ออกแบบและก่อสร้างงานอุโมงค์ (Tunnel) จะเป็นถนน หรือทางรถไฟฟ้า หรือทางรถไฟก็ได้ หรือจะเป็นงานสาธารณูปโภคอื่นที่ก่อสร้างด้วยวิธีที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล โดยมีมูลค่างานไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
หากขาดประสบการณ์ดังกล่าว สามารถนำประสบการณ์และผลงานของผู้รับจ้างมายื่นได้ ส่วนประสบการณ์ด้านการดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาต้องมีประสบการณ์ในการบริหารและบำรุงรักษาไม่น้อยกว่า 5 ปี ภายในระยะเวลา 25 ปี นับถึงวันที่ยื่นข้อเสนอ
โครงการนี้มีรายละเอียด ประกอบด้วย วงเงินโครงการ 17,811 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยสิ่งปลูกสร้าง ประมาณ 5,792 ล้านบาท, ค่าก่อสร้างประมาณ 8,662 ล้านบาท, ค่าควบคุมงานก่อสร้างประมาณ 215 ล้านบาท และค่าดำเนินงานและบำรุงรักษาประมาณ 3,142 ล้านบาท
ระยะเวลาโครงการ 35 ปี แบ่งเป็นออกแบบและก่อสร้างไม่เกิน 4 ปี นับจากวันที่ กทพ. ส่งมอบหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Profeed: NTP) และการบริหารจัดการและบำรุงรักษา เริ่มนับแต่วันที่เปิดให้บริการ จนถึงวันที่ครบกำหนด 35 ปี นับจาก กทพ. มีหนังสือให้เริ่มงาน
ขอบเขตของงาน ทาง กทพ. ดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ผู้ร่วมลงทุน และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง และได้รับค่าตอบแทนจากผู้ร่วมลงทุน
ขณะที่ขอบข่ายของเอกชน จะต้องออกแบบและลงทุนก่อสร้าง รวมถึงเป็นผู้ดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษา (Operation & Maintenance) มีระยะเวลาการดำเนินการเป็น 2 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 ออกแบบและก่อสร้าง ทั้งงานโยธา ได้แก่ งานถนน อุโมงค์ อาคาร ศูนย์ควบคุมและจัดเก็บค่าผ่านทาง สาธารณูปโภค ภูมิทัศน์ มาตรการอำนวยความปลอดภัย และมาตรการลดกระทบสิ่งแวดล้อม, งานระบบ และงานอื่นๆที่ทำให้การบริหารจัดเก็บและบำรุงรักษาทางพิเศษเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ระยะที่ 2 การบำรุงรักษาและบริหารจัดการ โดยผู้ร่วมลงทุนมีกรรมสิทธิ์ในค่าผ่านทาง โดยจะต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่เป็นรูปธรรมให้ กทพ. รวมถึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการและค่าที่ปรึกษาคุมงานด้วย และต้องลงนามในข้อตกลงคุณธรรม
แนวเส้นทาง เป็นทางพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร จุดเริ่มต้นโครงการ จะเชื่อมกับถนนพระเมตตา พื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ จนถึงเขานาคเกิด ระยะทาง 0.9 กม. จากนั้นจะเป็นส่วนของอุโมงค์ลอดเขานาคเกิด ระยะทาง 1.85 กม. หลังผ่านช่วงภูเขาจะเป็นทางยกระดับ ระยะทาง 1.23 กม. ไปสิ้นสุดโครงการในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ บริเวณจุดตัดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 มีทางขึ้นลง 2 แห่ง ที่ถนนพระเมตตา และที่จุดตัด ทล.4029 มีด่านเก็บเงิน 1 จุดบริเวณ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
ที่มาภาพปก-ภาพประกอบ: สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี