เผยผลประชุมคกก. ป.ป.ช. 13 ธ.ค.65 ยังไม่มีพิจารณาสำนวนคดีข้าวจีทูจี ภาค 2 เหตุ 'พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ' สั่งเลื่อนไปสัปดาห์หน้า ให้รอเจ้าหน้าที่เจ้าของสำนวนกลับจากตปท.ก่อน -ลุ้นคดีมันเส้นฯ 3 สำนวน 14 ธ.ค.นี้
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 13 ธ.ค.2565 นี้ ยังไม่ได้มีการพิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง คดีทุจริตการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภาค 2 ที่มีนักการเมืองคนสำคัญ อาทิ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส. และผู้ถูกกล่าวหารายอื่น จำนวนมากถึง 71 ราย
เนื่องจากพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นควรให้เลื่อนการพิจารณาออกไปในการประชุมสัปดาห์หน้า เพราะในการประชุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เจ้าของสำนวน ยังไม่ได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ส่วนการพิจารณาผลการไต่สวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นคดีการระบายมันสำปะหลัง ในสต็อกรัฐบาล ทั้ง 3 สำนวน ได้แก่ 1.กรณีกล่าวหานางพรทิวา นาคาศัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก 2.กรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก และ3.กรณีกล่าวหานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กับพวก มีการบรรจุวาระการพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 14 ธ.ค.2565 นี้ตามกำหนดการเดิม
สำหรับคดีระบายข้าวจีทูจี ภาค 2 นั้น สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จะถูกกันชื่อไว้เป็นพยานในคดี พร้อมกับบริษัทเอกชนบางส่วน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ด้วย
เดิมทีมีการกำหนดบรรจุวาระการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา แต่ที่ประชุมเห็นควรให้เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 13 ธ.ค.2565 เนื่องจากติดขัดปัญหาเอกสารสำคัญในคดียังไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะพยานบุคคลที่สำคัญ ราย นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ว่า คดีระบายข้าวจีทูจี ภาค 2 จากเดิมสำนวนทั้งหมดจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่เมื่อสิ้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเอกสารคดีทุจริตจีทูจีข้าวมีจำนวนเป็นหมื่นหน้า และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องการแสกนเอกสารทุกหน้า จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ไปแสกนข้อมูลแล้วกลับนำเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้ง เพื่อที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะได้พิจารณาและให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มรอบคอบ
"อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ข่าวออกไปว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณาคดีนี้ ผู้ร้องก็มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงต้องมาพิจารณาเรื่องการให้ความเป็นธรรม ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องนำมาพิจารณา แต่ขณะเดียวกัน ต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นการประวิงเวลาหรือไม่" ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุ