โควิดแค่ไข้หวัดใหญ่! สื่อจีนเผย รบ.จะมีชัยชนะเหนือโรคระบาด หลังลดมาตรการควบคุม

ผู้เชี่ยวชาญจีน เผยโควิดปัจจุบันแค่ไข้หวัดใหญ่ ชี้อัตราเสียชีวิตโอไมครอนอยู่แค่ 0.1 เปอร์เซ็นต์ ขณะสื่อจีนเผย รบ.จะได้รับชัยชนะเหนือโควิดหลังประกาศลดความข้มข้นมาตรการคุมโควิด

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับโควิดที่ประเทศจีนว่าทางการประเทศจีนยังคงยืนยันว่าความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 นั้นอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนเริ่มที่จะผ่อนคลายแล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของประเทศจีนกล่าวว่าอัตราการเสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้นอยู่ที่ระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ 

โดย นพ.จงหนานชาง ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่าอัตราการเสียชีวิตของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้นอย่ที่ประมาณ 0.1 เปอร์เซ็นต์ คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และการติดเชื้อนั้นไปไม่ถึงปอด ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นจะฟื้นตัวจากโอไมครอนได้ประมาณ 7-10 วัน

ความคิดเห็นของ นพ.จงนั้นเป็นไปตามท่าทีล่าสุดของรัฐบาลจีนในเรื่องของการรับมือกับไวรัสโควิด-19  ที่พูดถึงอันตรายอันจะเกิดของโรค ในขณะที่จีนตอนนี้กำลังเดินหน้าออกสู่นโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา จีนนั้นมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 10,514 ราย ซึ่งต่ำกว่าผู้ติดเชื้อใหม่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์  

ทั้งนี้ยังมีความสงสัยว่าตัวเลขดังกล่าวจะมีความแม่นยำหรือไม่ เพราะมีผู้ที่ไปตรวจหาเชื้อน้อยลง

นพ.จงกล่าวต่อไปเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาด้วยว่าตอนนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเพิ่มการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะว่าจะมีการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อขนาดใหญ่

“ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผู้คนจะหยุดงานในช่วงวันหยุดตรุษจีนปี 2566 ดังนั้นผมจึงแนะนำให้ผู้ที่จะเดินทางกลับบ้านรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อที่ว่าแม้พวกเขาจะติดเชื้อ แต่อาการป่วยจะไม่รุนแรง” นพ.จงกล่าว 

ทั้งนี้วันหยุดตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 21-27 ม.ค. อย่างไรก็ตาม ผู้คนมักเตรียมตัวสำหรับเทศการประมาณ 40 วัน เนื่องจากผู้คนส่วนมากมักจะเดินทางทั้งก่อนและหลังวันหยุดราชการ ชาวจีนหลายร้อยล้านคนมักจะเดินทางกลับไปยังจังหวัดบ้านเกิดของพวกเขาเพื่อจะไปหาครอบครัวกันในช่วงปีใหม่ 

โดยประเทศจีนได้มีการออกแผนการเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสถานพยาบาลระดับมณฑลในการรองรับผู้ป่วยจากโควิดได้ดียิ่งขึ้น โดยมีการขอให้สถานพยาบาลเพิ่มประมาณการรับผู้ป่วยของหอผู้ป่วยหนักให้ได้ก่อนสิ้นเดือน ธ.ค.  และที่บุคลากรทางการแพทย์จากกุมารเวชศาสตร์และหน่วยงานอื่น ๆ จําเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีดูแลผู้ป่วยในห้องไอซียูตามแผนการรับมือกับโรค

@ประเทศจีนอ้างชัยชนะ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา นิตยสาร People’s Daily ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้อ้างว่ารัฐบาลนั้นได้ดำเนินการตามมาตรการเกี่ยวกับโควิดฉบับใหม่จำนวน 10 ข้อที่ถูกประกาศโดยคณะกรรมการสุขภาพเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาตรการเหล่านี้รวมถึงการลดการตรวจหาเชื้อ และการคลายกฎการกักตัว

โดยพื้นที่ที่ได้มีการใช้มาตรการใหม่ดังกล่าวนั้นได้แก่ภูมิภาคต่างๆ รวมถึงฉงชิ่ง และเมืองต่างๆ ในเหลียวหนิง ซานตง และกวางตุ้งได้เรียกร้องให้โรงเรียนกลับมาสอน ณ สถานศึกษาอีกครั้งหนึ่ง

“มาตรการใหม่เหล่านี้จะปูทางให้จีนเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมโควิดในอนาคตและในที่สุดจีนก็จะได้รับชัยชนะเหนือการระบาด” หนึ่งในความเห็นในรายงานข่าวระบุ

ขณะที่หนังสือพิมพ์ Global Times ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับการสนับสนับจากรัฐก็ได้มีการอ้างถึงความเห็นของ นพ.เจิ้งกวง อดีตหัวหน้านักระบาดวิทยาที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนที่กล่าวว่าข้อเสนอแนะสำหรับประเทศจีนในการปรับลดการควบคุมโควิดจากหมวด A ไปหมวด B นั้นได้รับการผลักดันเป็นอย่างยิ่งในโลกของวิทยาศาสตร์

โดยนักวิทยาศาสตร์จีนมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการเปลี่ยนแปลงของไวรัสโคโรนานั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่อันตรายที่น้อยลง ซึ่งประเทศจีนจะดำเนินการลดความเข้มข้นของมาตรการควบคุมโควิดในเวลาที่ถูกต้อง

นพ.เจิ้งกล่าวต่อไปว่าในปัจจุบันประเทศจีนได้จัดให้โควิด-19 เป็นโรคประเภทบีแล้ว แต่ยังควบคุมโรคนี้ในลักษณะของโรคประเภท A

เรียบเรียงจาก:https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-12-11/china-s-top-medical-adviser-says-omicron-risks-similar-to-flu?srnd=premium