'หมอยง' ย้ำกลุ่มเปราะบางควรรับวัคซีนกระตุ้น เผยโควิดในอนาคต จะคล้ายกับโรคทางเดินหายใจในอดีต เด็กเกิดใหม่ไม่มีภูมิ แต่หากหากติดเชื้อ โตขึ้นความรุนแรง-เสียชีวิตลดน้อยลง
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2565 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุข้อความว่า โควิด 19 คนไทยติดเชื้อไปแล้ว ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์
จากการศึกษาจากประวัติการติดเชื้อ และ การตรวจเลือด ที่จังหวัดชลบุรี จะเห็นว่าประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วประมาณร้อยละ 60-70 และก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ไม่เคยติดเชื้อเลยก็จะเป็นเพียงส่วนน้อย โดยเฉพาะการติดเชื้อในเด็ก จะเป็นการติดเชื้อแบบมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ผลตรวจเลือด ช่วยยืนยันว่ามีการติดเชื้อไปแล้ว จาก anti nucleocapsid ดังเห็นได้จากตาราง
ประชากรส่วนใหญ่ตรวจพบภูมิต้านทาน anti spike มากกว่าร้อยละ 95 ภูมิดังกล่าวเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ และหรือจากการฉีดวัคซีน
ข้อมูลทั้งหมดขณะนี้ก็จะคล้ายใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ ประชากรผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีภูมิต้านทานที่ตรวจพบได้ต่อไข้หวัดใหญ่ แต่ก็ยังเป็นไข้หวัดใหญ่ ภูมิต้านทานต่อไข้หวัดใหญ่จะตรวจพบได้น้อยในเด็กต่ำกว่า 3 ปี และเมื่อโตขึ้นมาเกิน 3 ปี ส่วนใหญ่จะเคยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มาแล้ว
ธรรมชาติของโรคไวรัสทางเดินหายใจ เมื่อเป็นในเด็กความรุนแรงจะน้อยกว่าในผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ จะไปพบความรุนแรงเพิ่มขึ้นในกลุ่มเปราะบางหรือ 608
ดังนั้นในอนาคตต่อไป กลุ่มที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อโควิด 19 ก็จะเป็นเด็กเกิดใหม่ จนถึง 2-3 ปี และเมื่อติดเชื้อไปแล้วก็จะมีภูมิคุ้นเคยกับไวรัส และมีการติดเชื้อซ้ำ เมื่อโตขึ้น ความรุนแรงก็จะน้อยลง
กลุ่มเปราะบางจึงเป็นกลุ่มที่ควรจะได้รับวัคซีนกระตุ้น เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ที่มีการให้วัคซีนในกลุ่มเสี่ยง
ภาพดังกล่าวในอนาคตของ covid-19 ก็คงจะเป็นคล้ายกับโรคทางเดินหายใจในอดีต ที่จะมีการติดเชื้อในเด็ก เพราะไวรัสติดต่อกันได้ง่าย และเมื่อโตขึ้น ก็จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น จากการติดเชื้อในเด็กและการติดเชื้อซ้ำ ที่มีอาการไม่รุนแรง