รองนายกฯจีน ประกาศปรับท่าทีควบคุมโควิด 'ให้มีมนุษยธรรม' มากยิ่งขึ้น เน้นการฉีดวัคซีนคนแก่-เด็ก ชี้โอไมครอนทำให้อาการของโรคน้อยลง ขณะทั่วประเทศจีน ยังคงมีเหตุประท้วงต้านมาตรการโควิด ล่าสุดกวางโจว-ฉงชิ่งประกาศผ่านคลายมาตรการแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 ที่ประเทศจีนว่านางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับปรุงมาตรการป้องกันโควิดและให้เพิ่มประสิทธิภาพของนโยบายการทดสอบ การรักษา และการกักกันโรค เนื่องจากไวรัสอ่อนกําลังลงในการก่อโรคที่รุนแรง
อนึ่งคำพูดของรองนายกรัฐมนตรีนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เมืองต่างๆในประเทศจีนได้มีการปรับมาตรการ โดยเน้นไปที่การเข้าหาเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นเป็น1 ใน 20 การปรับมาตรการรับมือโควิดที่รัฐบาลจีนได้ระบุออกมาเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน
“ประเทศกําลังเผชิญกับสถานการณ์ใหม่และภารกิจใหม่ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเนื่องจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้นมีความอ่อนแอลงกว่าโควิดสายพันธุ์อื่นๆในแง่ของการก่อโรคที่รุนแรง และผู้คนจํานวนมากได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว ซึ่งประสบการณ์ในการป้องกันและการออกมาตรการควบคุมไวรัสใหม่ๆนั้นจะถูกสะสม และจะถูกนำไปพิจารณาต่อไป” นางซุนกล่าว
นางซุนย้ำว่ารัฐบาลจีนนั้นยังคงมุ่งเน้นไปที่การให้ผู้คนมีสุขภาพดีและมีความปลอดภัยเป็นอย่างแรก โดยที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้มีการจัดการกับความไม่แน่นอนของโควิด-19ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยกลยุทธ์ที่สอดคล้องกันและมาตรการที่ยืดหยุ่นในการต่อสู้กับไวรัส ซึ่งหลังจากนี้ประเทศจีนจะมีการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนในเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งถือว่าเป็นประชากรกลุ่มเปราะบาง และหลังจากนี้ประเทศจีนก็จะมีการใช้แนวทางที่มีมนุษยธรรมมากขึ้นในการรับมือกับการระบาด
อนึ่งคำพูดของรองนายกรัฐมนตรีจีนนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางการลุกฮือของประชาชนจีนทั้งในและต่างประเทศ เกิดขึ้นหลังจากเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์ในมณฑลซินเจียง ที่คร่าชีวิต 10 คน และผู้คนบนโลกออนไลน์ของจีนต่างมองว่ามาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดของรัฐบาลจีนเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของผู้คนที่ต้องติดอยู่ในอาคารและไม่สามารถออกมาได้ทัน แต่ทางการจีนปฏิเสธในเรื่องนี้
โดยการประท้วงยังดำเนินต่อไปในนครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง และอีกหลายเมืองของจีน โดยสถานการณ์การประท้วงยกระดับขึ้น เมื่อผู้ชุมนุมในเมืองกวางโจว อันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของจีน ปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรคในคั่นที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา
จนเมื่อที่ 30 พ.ย. ทางการจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเมืองกวางโจวและฉงชิ่ง 1 วันหลังจากเหตุปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจล โดยในกรณีของเมืองฉงชิ่ง ทางการอนุญาตให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถกักตัวสังเกตอาการที่บ้านได้ แต่ไม่มีสัญญาณของการผ่อนคลายนโยบายขนานใหญ่แต่อย่างใด
ส่วนเขตหนึ่งในเมืองออร์โดส ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในได้มีการประกาศหยุดการตรวจหาโควิดเป็นการชั่วคราวเนื่องจากปัญหาเรื่องสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ โดยสื่อของรัฐบาลจีนกล่าวว่าการปรับท่าทีดังกล่าวนั้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงการควบคุมโรคระบาดที่จะมีมนุษยธรรมมากยิ่งขึ้น
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั่วประเทศจีนนั้นมีรายงานว่าตัวเลขผู้ติดโควิดประจำวันที่ 30 พ.ย. นั้น พบว่าจีนมีผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 36,061 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อมีอาการ 4,150 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ 31,911 ราย
เรียบเรียงจาก:https://edition.cnn.com/2022/11/30/china/china-zero-covid-new-stage-guangzhou-intl/index.html