เทศบาลเมืองบางแก้วระอุ! ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยกคำร้องคดีใบแดง 'ณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ' หวนคืนนั่งตำแหน่งนายกฯ เตรียมสั่งตั้งกก.สอบผู้เกี่ยวข้อง ปมเสนอเรื่องอดีตผู้ว่าฯ ปากน้ำ ยกเว้นระเบียบใช้เงินสะสม 807 ล้าน เดินหน้า 10 โครงการรวดช่วงเกิดสูญญากาศทันที ล่าสุดสั่งระงับหมดทุกโครงการ ชี้เป็นการกระทำไม่ถูกต้องตามระเบียบ โครงการมูลค่านับร้อยล้านไม่มีเอกสารประกอบ
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการลงนามอนุมัติให้เทศบาลเมืองบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ยกเว้นระเบียบการใช้เงินสะสม เพื่อดำเนินการโครงการต่างๆ 10 โครงการ จำนวนเงิน 807,360,000 บาท ของนายวันชัย คงเกษม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งปัจจุบันถูกโยกย้ายให้ไปดำรงผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ว่า เป็นการนำเสนอเรื่องที่รวดเร็วแบบผิดสังเกต ขณะที่แผ่นงานบางโครงการถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำถูกต้องครบถ้วนตามระเบียบที่กำหนดไว้หรือไม่
เบื้องต้น นายวันชัย คงเกษม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และนาง พัชรากร กุลรัตนจินดา ปลัดเทศบาลและรักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางแก้ว ยืนยันว่าทำทุกอย่างถูกต้องตามระเบียบราชการ
ขณะที่การนำเสนอเรื่องดังกล่าว เทศบาลเมืองบางแก้วให้เหตุผลว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการบริหารงานภายใน เพราะ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้วและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางแก้วโดยศาลอุทธรณ์ภาค 1 สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากได้มีคำสั่งรับคำร้องขอคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ไว้พิจารณาวินิจฉัย ซึ่งขณะนี้ยังมีคดีความฟ้องร้องกับศาลอยู่ จึงทำให้เทศบาลเมืองบางแก้วทำหนังสือเสนอข้ออนุมัติยกเว้นระเบียบการใช้เงินสะสมกับทางผู้ว่าจังหวัดสมุทรปราการดังกล่าว
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในเทศบาลเมืองบางแก้วว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2565 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา ยกคำร้องคดีใบแดง ส่งผลให้ นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางแก้ว พร้อมสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางแก้ว 19 คน กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ขณะที่ นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางแก้ว ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศราว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อเตรียมแต่งตั้งกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องกับการเสนอเรื่องขออนุมัติยกเว้นระเบียบการใช้เงินสะสม เพื่อดำเนินการโครงการต่างๆ 10 โครงการ จำนวนเงิน 807,360,000 บาทดังกล่าว เนื่องจากได้รับทราบจากผู้อำนวยการกองต่างๆ ว่า เป็นการกระทำโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบการขอใช้งบประมาณ
"ปัจจุบันเทศบาลเมืองบางแก้วยังไม่ได้ใช้เงินสะสมในโครงการเหล่านี้ และสั่งระงับโครงการหมดทุกตัวแล้ว มีเพียงแต่โครงการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ไฮดรอลิคขนาด 16 นิ้วและ 24 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์จำนวน 5 เครื่อง จำนวนเงิน 44,691,000 บาท ที่ระงับไม่ทัน เพราะเซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ตอนนี้กำลังเรียกผู้ประกอบการ เพื่อขอยกเลิกสัญญาดังกล่าว เนื่องจากที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำยังไม่มีเลย แล้วไปซื้อเครื่องสูบน้ำมาได้ยังไง"
@ นาย ณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ
นายณัฐพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น มีข้าราชการรับสารภาพว่าโดนบังคับให้ทำ หลายโครงการมีปัญหาเอกสารประกอบไม่ครบถ้วน อาทิ โครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จำนวนเงิน 259,000,000 บาท โครงการก่อสร้างเขื่อนกันดิน ค.ส.ล. ริมคลองบางนา คลองสาหร่าย คลองหนองตาดำ คลองไพสารี-ต้นตาล และคลองปลัดเปรียง ความยาวไม่น้อยกว่า 3,540 เมตร จำนวนเงิน 220,000,000 บาท ไม่มีเอกสารประกอบการเสนอโครงการเลย เอกสารประกอบการของบประมาณตามระเบียบก็ไม่มีเลยมีเพียงหนังสือฉบับเดียวลอย ๆ เพื่อขออนุมัติเงินผู้ว่าฯ เท่านั้น
"นอกจากนี้ยังทราบว่า ถ้าผู้ว่าฯ สมุทรปราการ กับ ผอ.กองกฎหมายที่จังหวัดไม่อนุมัติ ผู้บริหารรายหนึ่ง ก็จะไปบอกยืนยันว่าถูกต้อง ทำได้ พยายามให้พวกเขาอนุมัติ เรื่องนี้ผมมองว่า ถ้าผมยังไม่ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ เงินคงหมดเทศบาลแล้ว โชดดีที่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ทัน"
นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางแก้ว ระบุอีกว่า "ถ้าสังเกตหลาย ๆ โครงการที่ขออนุมัติเงินสะสมไป มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนเลย อีกทั้งการเซ็นอนุมัติเงินสะสมดังกล่าวเป็นการเซ็นก่อนที่ตัวผู้ว่าฯ สมุทรปราการ จะถูกโยกย้ายให้ไปดำรงผู้ว่าฯ อุดรธานีเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ทั้งนี้จะเตรียมตั้งกรรมการสอบปลัดเทศกาลเมืองบางแก้วต่อไปด้วย"
สำหรับกรณีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า โครงการที่เทศบาลเมืองบางแก้วขออนุมัติ ยกเว้นระเบียบการใช้เงินสะสม เพื่อดำเนินการโครงการให้เบ็ดเสร็จทั้งหมด 10 โครงการ จำนวนเงิน 807,360,000 บาท มีดังนี้
1.โครงการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ไฮดรอลิคขนาด 16 นิ้วและ 24 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์จำนวน 5 เครื่อง จำนวนเงิน 44,691,000 บาท
2.โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนลาดยางผิวจราจรแอสฟัลติกส์คอนกรีตและวางท่อระบายน้ำ คสล.ชุมชนบ้านคลองต้นถึงบ้านคลองปลัดเปรียง จำนวนเงิน 17,669,000 บาท
3.โครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติเฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระกนิษฐาธิราช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จำนวนเงิน 130,000,000 บาท
4.โครงการจัดซื้อที่ดินข้างสวนสมเด็จพระกนิษฐาธิราช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จำนวนเงิน 5,000,000 บาท
5.โครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จำนวนเงิน 259,000,000 บาท
6.โครงการก่อสร้างเขื่อนกันดิน ค.ส.ล. ริมคลองบางนา คลองสาหร่าย คลองหนองตาดำ คลองไพสารี-ต้นตาล และคลองปลัดเปรียง ความยาวไม่น้อยกว่า 3,540 เมตร จำนวนเงิน 220,000,000 บาท
7.โครงการปรับปรุงยกระดับถนน ค.ส.ล. พร้อมวางท่อระบายน้ำ บริเวณถนนสายเมนเปรมฤทัย จำนวนเงิน 30,000,000 บาท
8.โครงการปรับปรุงยกระดับถนน ค.ส.ล. พร้อมวางท่อระบายน้ำในเปรมฤทัย จำนวนเงิน 35,000,000 บาท
9.โครงการปรับปรุงยกระดับถนน ค.ส.ล. พร้อมวางท่อระบายน้ำในเปรมฤทัย จำนวนเงิน 16,000,000 บาท
10.โครงการก่อสร้าง Asset road เลียบทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ช่วงหนามแดง-บางพลี จำนวนเงิน 50,000,000 บาท
ขณะที่ นางพัชรากร กุลรัตนจินดา ปลัดเทศบาลเมืองบางแก้ว ยืนยันกับสำนักข่าวอิศราว่า ทางเทศบาลเมืองบางแก้วทำหนังสือขออนุมัติระเบียบการใช้เงินสะสมโครงการดังกล่าวถูกต้องตามระเบียบราชการ
@ นาง พัชรากร กุลรัตนจินดา
ส่วน นายวันชัย คงเกษม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า ตนอนุมัติจริง เพราะทางสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสมุทรปราการนั้นตรวจสอบแล้วเสนอมา ส่วนรายละเอียดในเรื่องความจำเป็นต้องใช้งบประมาณ 800 กว่าล้านบาทนั้น ต้องสอบถาม ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสมุทรปราการ
และ สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายทนง พงษ์ธีรวัฒน์ ผอ.ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถื่นจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้เพิ่มเติม ได้รับคำชี้แจงว่าในกระบวนการของการใช้เงินสะสม จะมีหลักการทางกฎหมายคือ นำไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน การให้บริการสาธารณะ หรือไปเพิ่มพูมรายได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยปกติในหลาย ๆ เทศบาลเมืองที่มีเงินสะสมเยอะ มักจะนำเงินสะสมมาใช้ควบคู่งบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งเทศบาลเมืองบางแก้วมีเงินสะสมประมาณ 1,500 - 1,600 ล้านบาท และขออนุมัติตามระเบียบกฎหมายและอยู่ในเงื่อนไข จึงขออนุมัติยกเว้นระเบียบการใช้เงินสะสมได้
ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป