กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ย้ำ BCG Model คือการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรายใหญ่ ประกาศเช้า 18 พ.ย. เคลื่อนขบวนไปศูนย์สิริกิติ์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 จัดกิจกรรมที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เวลา 16.00 - 21.30 น.
โดยกิจกรรมที่กลุ่มราษฎรจัดมีการแสดงดนตรี ปราศัยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเอเปก และประเด็นทางการเมืองที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีการจัดเสวนาวิพากษ์ APEC 2022 ภายใต้หัวข้อฟอกเขียวกลุ่มทุนผูกขาด
เมื่อดำเนินกิจกรรมเสร็จสิ้นแกนนำกลุ่มราษฎรประกาศการเคลื่อนไหวในวันที่ 18 พ.ย. 2565 โดยจะเริ่มเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมจากลานคนเมืองเวลา 7.00 น. ไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ทำการสรุปเนื้อหาการเสวนาของกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 มีรายละเอียดดังนี้
ภาพตัวแทนกลุ่มต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเสวนา
เริ่มจากตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวถึงนิคมอุตสาหกรรมจะนะที่เป็นตัวแทนของการใช้กลโกงของกลุ่มทุนรายใหญ่ภายใต้คำว่า BCG Model การใช้คาร์บอนเครดิตในระดับโลกแต่ไม่แก้ปัญหาในแต่ละประเทศที่ปล่อยคาร์บอนมากที่สุด แต่กลับมาอ้างความชอบธรรมในการยึดพื้นที่จะนะเพื่อตอบสนองนโยบายที่มีเจตนาแอบแฝง
“คุณกำลังอ้างที่สีเขียว แล้วทีผมเรียกร้องที่สีเขียว ทำไมคุณไม่ยอมรับ ทำไมคุณต้องเอาจะนะเป็นนิคมอุตสาหกรรมด้วย หลากหลายพื้นที่ของประเทศไทยของเรา ทั้งภาคเหนือภาคอีสาน พวกเราไม่เคยได้ถูกเชิญไปออกแบบ หาทางออกร่วมกัน คุณคิดเฉพาะนายทุนอย่างเดียว” ตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นกล่าว
ต่อมาตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) และสลัมสี่ภาค กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตานานาชาติ การประท้วงในช่วงประชุมเอเปกไม่ได้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายแต่อย่างใด เพราะภาพลักษณ์นั้นเสียหายตั้งแต่มีการรัฐประหาร
นอกจากนี้ตัวแทน P-move ยังกล่าวถึงประเด็นการประชุมเอเปกที่เป็นการปิดบังจุดประสงค์ที่รัฐบาลต้องการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนในประเทศไทย การไม่อธิบายเรื่องคาร์บอนเครดิตและผลที่ตามมาให้ประชาชนเข้าใจ การกดขี่เสรีภาพที่รัฐกระทำประชาชน การดิ้นรนอย่างไร้ความชอบธรรมของนายกรัฐมนตรีที่พยายามหาผลงานเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งในสมัยต่อไป
“ถามว่าเอเปกครั้งนี้เป็นการชุบตัวอีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลนี้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หมกเม็ดทุกเรื่อง ประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพเอเปกเขาต้องบอกข้อมูลกับพีาน้องประชาชน ทำการบ้านกับพี่น้องประชาชนให้ทราบว่าเอเปกมันให้ประโยชน์อะไรกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ คือคน 20 กว่าล้านคนที่เป็นคนจน แต่สิ่งที่เขาทำคือให้นายทุนต่างชาติเอื้อนายทุนในประเทศไทย นายทุนแค่ 1% เท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากการประชุมเอเปกครั้งนี้” ตัวแทน P-move กล่าว
ตัวแทนกลุ่มราษฎรโขงชีมูน กล่าวถึงบริษัทโรงงานน้ำตาลในภาคอีสานที่มีผู้บริหารเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมประชุมเอเปก การมีส่วนร่วมในสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ภาคอีสานที่ประชาชนในพื้นที่ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม ปัญหาจากโรงงานน้ำตาลที่กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่
“ถ้าสมมติว่าโครงการ BCG ที่เราพูดกันมาสองวันผ่านขึ้นมาแล้วถูกนำไปใช้จริง มันจะยิ่งหนักกว่าเดิม โรงงานที่ยังไม่ได้ตั้งก็จะสามารถตั้งได้ โรงงานที่มีปัญหาในด้านขั้นตอน EIA หรือแม้แต่กฎการตั้งโรงงานที่ต้องมีระยะทางห่างจากพื้นที่ชาวบ้าน 5 กิโลเมตร จะทำให้โรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลตั้งได้ง่ายมากขึ้น” ตัวแทนกลุ่มราษฎรโขงชีมูนกล่าว
สุดท้ายนายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการ Greenpeace ประเทศไทย กล่าวถึงระบบเศรษฐกิจ BCG ที่มีกลุ่มทุนรายใหญ่อยู่เบื้องหลัง การค้าคาร์บอนเครดิตที่มีการใช้พื้นที่ป่าเพื่อสร้างโรงงานแล้วปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ แล้วนำกลับมาเป็นสินค้า
“มันคือการสร้างผลกำไรบนฐานทรัพยากรที่เรามีอยู่แล้วโดยใช้กลไกเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ ที่นักเศรษฐศาสตร์จะอ้างกันว่าช่วยทำให้ชุมชนมีงานทำ ป่าก็ยังอยู่ แล้วก็ช่วยลดโลกร้อน ซึ่งพวกนี้เป็นเรื่องที่โกหก ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาถ้าเราดู การซื้อขายคาร์บอนมีมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา แล้วบอกว่ามันจะช่วยลดโลกร้อน แต่อุณหภูมิโลกก็ยังเพิ่มสูงขึ้น เราก็เห็นภัยพิบัติเพิ่มมากขึ้น มันไม่ได้ลดนะ ในทางปฏิบัติมันไม่ได้ลด” นายธารากล่าว
ทั้งนี้ตัวแทนที่เข้าร่วมเสวนากล่าวทิ้งท้ายไปในทางเดียวกันคือประชาชนต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์