อย.พบแคดเมียมเกินมาตรฐานในหมึกกล้วยทั้งตัวแช่แข็งจากจีน บริษัทนำเข้าแจงต้นทางตรวจไม่พบสาร คาดปริมาณเยอะมาก ทำให้ควบคุมได้ยาก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศผลการตรวจพิสูจน์อาหาร ตรวจพบปริมาณแคดเมียมเกินมาตรฐาน ในผลิตภัณฑ์ปลาหมึกกล้วยทั้งตัวแช่แข็ง ไม่ระบุรุ่นการผลิต วันผลิตและวันหมดอายุ
โดยสุ่มเก็บตัวอย่างอาหาร ณ ด่านอาหารและยาลาดกระบัง เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 พบว่า ‘ผลิตภัณฑ์ปลาหมึกกล้วยทั้งตัวแช่แข็ง’ ผลิตโดย Dongshan Donglida Food Co., Ltd. สาธารณรัฐประชาชนจีน นำเข้าโดย บริษัท ณัฐธิชา อิมพอร์ต เอ็กพอร์ต จำกัด ไม่ระบุรุ่นการผลิต วันผลิตและวันหมดอายุ น้ำหนักสุทธิ 1 กิโลกรัม
ผลการตรวจวิเคราะห์ทางวิชาการ จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบแคดเมียม 2.48 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ต้องไม่เกิน 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) เข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์และอาหารผิดมาตรฐานตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงเป็นอาหารที่ไม่ปลอดภัยในการบริโภค ทั้งนี้ อย.อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ 0816077913 เบอร์โทรศัพท์ของบริษัท ณัฐธิชา อิมพอร์ต เอ็กพอร์ต จำกัด ตามที่ปรากฏบนเว็บไซต์บริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ในบริษัทว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และบริษัทกำลังรอฝ่ายกฎหมายของ อย.เรียกให้ไปเสียค่าปรับตามกระบวนการ ซึ่งบริษัทต้นทาง (Dongshan Donglida Food Co., Ltd.) ตรวจไม่พบสารดังกล่าว
อีกทั้งถ้าสินค้าจากต้นทางไม่ผ่าน อย.ของต้นทางก็ไม่สามารถส่งออกมาขายที่ไทยได้ แต่เพราะปลาหมึกมีจำนวนมากหลายหมื่นหลายแสนตัวอาจทำให้การตรวจสอบไม่ครอบคลุม บางตัวตรวจเจอ บางตัวตรวจไม่เจอ เป็นเรื่องที่ควบคุมยาก ไม่สามารถควบคุมได้ 100%
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้มีการเรียกเก็บปลาหมึกรุ่นที่เป็นปัญหากลับมาหรือไม่ ทางบริษัทตอบกลับมาว่าไม่ได้เรียกคืนสินค้า เนื่องจากกว่ากระทรวงจะมาตรวจและแจ้งผลก็ใช้เวลานานประมาณ 5-6 เดือน บริษัทไม่สามารถเก็บสินค้าไว้นานได้เพราะต้องใช้เงินมาหมุนเวียนในการทำธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคแต่อย่างใด จึงไม่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะของพวกนี้เวลาเอาไปล้าง เอาไปประกอบอาหารโดยผ่านความร้อนจนสุกย่อมหายไปไม่เป็นอันตราย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแคดเมียมจาก ‘ประโยชน์และความเป็นพิษของโลหะหนักแคดเมียม’ โดย เขมชิต ธนากิจชาญเจริญ, นงนาถ เมฆรังสิมันต และสุรชัย ศิลามณีโชติ เผยแพร่เมื่อ เมษายน 2551 พบว่า เมื่อร่างกายไดรับแคดเมียมโดยการกิน ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแคดเมียมปนเปื้อนหรือบรรจุในภาชนะที่เคลือบด้วยแคดเมียม อาการที่ปรากฏเริ่มแรกคือรู้สึกคลื่นเหียนอย่างรุนแรงอาเจียน ทองร่วง เป็นตะคริว และน้ำลายฟูมปาก ในรายที่เป็นมากอาจเกิดอาการช็อคเนื่องจากรางกายสูญเสียน้ำมาก ระบบการทํางานของไตล้มเหลวและอาจถึงตายได้ การที่ร่างกายจะขับสารแคดเมียมที่ดูดซึมเข้าไปแล้วจะต้องใช้เวลา 16-33 ปี
ขณะเดียวกันความเป็นพิษจากแคดเมียมที่เกิดกับคนส่วนใหญ่มักเป็นแบบชนิดเรื้อรังซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายได้รับแคดเมียมเข้าไปเป็นเวลานานติดต่อกัน ผู้ที่ได้รับแคดเมียมเขาสู่ร่างกายนานติดต่อกันจะพบความเป็นพิษที่ไตก่อนที่ปอด จะเกิดแผลที่ไต พิษต่อไตจะปรากฏโดยผู้ป่วยมีอาการของโปรตีนยูเรีย คือ ไตจะมีการขับปัสสาวะที่มีโปรตีนมากกว่าปกติ
ที่มาภาพ : https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/181335/