แพทย์เผยทั่วโลกป่วยปอดอักเสบ 400 ล้านคน/ปี ยันโควิดจะไม่หายไปไหน ย้ำวัคซีนยังสำคัญ ช่วยลดเสี่ยงอาการหนัก-ตาย แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดเข็มกระตุ้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2565 สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดงานเสวนาวิชาการออนไลน์ เนื่องในวันปอดอักเสบโลก (World Pneumonia Day 2022) เรื่อง ประเทศไทยกับการเตรียมความพร้อมสู่การป้องกันโรคปอดอักเสบหลังการระบาดโควิด-19
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า โรคปอดบวม ปอดอักเสบ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประเทศไทย สาเหตุเกิดทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบของปอดได้
ดังนั้น หากเรารู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร และทราบการป้องกันก็จะช่วยได้ ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน มีหลายชนิด อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ทุกวันที่ 12 พ.ย. ของทุกปีเป็นวันโรคปอดอักเสบโลก เพื่อให้มีการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้การป้องกันโรค
“แนวทางการป้องกันด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยก็สามารถช่วยได้ เพราะปอดอักเสบเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ ขณะเดียวกันการฉีดวัคซีนโควิดก็ยังลดโอกาสเกิดปอดอักเสบเช่นกัน จึงขอเชิญชวนประชาชนมาฉีดวัคซีนโควิดที่เป็นเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้มีโรคร่วม หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนเป็นต้นไป ก็จะช่วยลดความรุนแรงและเสียชีวิต ทั้งโควิดและปอดอักเสบ” นพ.นคร กล่าว
รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ กรรมการสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคปอดบวมกับปอดอักเสบ คล้ายๆ กัน แต่จริงๆ แล้วควรใช้คำว่า ปอดอักเสบ จะตรงมากกว่า โดยโรคนี้เป็นได้ทุกช่วงอายุ ไม่ใช่โรคที่เป็นจำเพาะเด็ก หรือจำเพาะผู้ใหญ่ ซึ่งการป้องกันต่างๆ จะแตกต่างกันในกลุ่มระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
สถานการณ์ทั่วโลกแต่ละปีมีผู้ป่วยปอดอักเสบประมาณ 400 ล้านคนต่อปี เสียชีวิตปีละ 2.5 ล้านคน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งอายุต่ำกว่า 15 ปี อีกครึ่งเกิน 15 ปี และพบมากอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นแล้วอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ เพราะภูมิคุ้มกันต่ำ และมีโรคประจำตัว ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่ที่เสียชีวิตจะมีครึ่งหนึ่ง และพบมากในอายุเกิน 65-70 ปีขึ้นไป เพราะมีโรคประจำตัว ติดเชื้อง่าย และมีโอกาสรุนแรงง่าย อีกทั้งภูมิคุ้มกันก็เริ่มอ่อนแอลง
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวถึงสาเหตุการเกิดอาการปอดอักเสบว่า มีได้จาก 1) หายใจเอาไวรัสเข้าไปในร่างกาย ซึ่งเกิดได้น้อย เนื่องจากร่างกายมีระบบต่อสู้กับเชื้อโรค และ 2) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
โดยตัวสำคัญที่สุดคือ นิวโมคอคคัส (pneumococcal) ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในลำคอ รอวันที่จะจู่โจมในวันที่ร่างกายอ่อนแอ เช่น เป็นไข้หวัด ทางเดินหายใจขรุขระนำพาเชื้อลงปอดไป หรือเข้าสู่ระบบเลือดที่จะเกิดโรคทางสมอง กระดูก เกิดเป็นกลุ่มโรคปอดอักเสบที่รุนแรง (IPD)
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวอีกว่า ปัจจัยเสี่ยงให้เกิดปอดอักเสบ คือ 1) อายุ อย่างที่กล่าวไปอายุน้อย อายุมาก การมีโรคร่วม เป็นต้น 2) การกินนมแม่ อย่างปอดอักเสบจะโฟกัสไปเด็ก หากกินนมแม่จะได้ภูมิคุ้มกัน ซึ่งแนะนำให้เด็กหลังคลอดต้องรับนมแม่จะป้องกันโรคได้ 3) สภาพอาการ ฝุ่นละออง PM 2.5 ควันบุหรี่ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเช่นกัน 4) ประเทศที่มีเศรษฐานะยากจน ขาดอาหาร ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดลง และ 5) ภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละคน
“เชื้อไวรัส RSV ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบในเด็กและผู้ใหญ่สูง แต่ข่าวล่าสุด ก็เริ่มพัฒนาวัคซีนใกล้สำเร็จแล้ว มีผลการศึกษาในผู้สูงอายุแล้วก็จะมีการศึกษาในเด็กต่อไป นอกจากนั้น มีการศึกษาในหญิงตั้งครรภ์ที่เมื่อคลอดลูก ก็จะมีภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อตั้งแต่อยู่ในท้องได้” รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าว
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อต่างๆ อย่างวัคซีนต่อเชื้อนิวโมคอคคัส เป็นวัคซีนที่อยากได้มาก โดยเฉพาะในเด็กเพื่อป้องกันโรคไอพีดี อาการรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนฮิบ (Hib) ซึ่งปัจจุบันเด็กไทยได้แล้ว ป้องกันทั้งปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาด ยิ่งการสวมหน้ากากอนามัยลด การระบาดจะมากขึ้น ดังนั้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง แต่คุ้มค่ามาก เพราะนอกจากป้องกันไข้หวัดใหญ่ ยังป้องกันนิวโมคอคคัสได้
“สุดท้ายขอย้ำเรื่องโรคโควิด-19 ไม่มีวันไปไหน จะอยู่กับเราไปชั่วกัลปาวสาน และจะลากเอาพี่น้องมาด้วย ดังนั้น โควิดเป็นตัวอย่างสำคัญ ว่าการบาลานส์ของธรรมชาติกับมนุษย์สำคัญมาก ยังมีเชื้อโคโรนาไวรัสตัวใหม่ๆอีกมากที่รออยู่ และรอที่ไหน เชื่อว่า รออยู่ในค้างคาว ดังนั้น ข่าวที่ไปกินค้างคาว อย่าเล่นกับไฟ อันตรายสุดๆ ค้างคาวเป็นสุดยอดแห่งสัตว์นำเชื้อโรคต่างๆ ทั้งไข้หวัดใหญ่ โคโรนาไวรัส ไข้สมองอักเสบ พิษสุนัขบ้า ฯลฯ” รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าว
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวเน้นย้ำว่า การฉีดวัคซีนโควิดจะป้องกันอาการรุนแรง ปอดอักเสบและเสียชีวิตได้ ดังนั้น กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ ให้รีบมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะป้องกันการเสียชีวิตได้ โควิดป่วยแล้วก็หาย แต่หากลงปอด จนเกิดปอดอักเสบจะรุนแรงมาก