ป.ป.ช.สมุทรปราการแจงมูลค่าโครงการโกงกางเทียม อบจ.สมุรปราการ 1.045 พัน ล. ไม่ใช่ 1.4 พัน ล. วอนสื่อแก้ข้อมูลให้ถูกต้อง เผยตอนนี้ต้องรอกรมเจ้าท่าตอบกลับเรื่องกฎหมาย-อบจ.ส่งคำชี้แจงอีก รับยิ่งช้าอาจมีค่าเสียโอกาสเพิ่ม
สืบเนื่องจากที่ปรากฏข่าวว่า สำนักงานป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสมุทรปราการ กับชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ หลังได้รับเรื่องร้องเรียน “โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการโดยใช้นวัตกรรมโกงกางเทียมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ” ไม่ได้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไม่มีการขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่มีการนำโกงกางเทียมไปติดตั้งตามที่ระบุไว้ในสัญญา ตลอดจนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโกงกางเทียมด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากถูกปลดจากบัญชีนวัตกรรมแล้ว
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ติดต่อสอบถามไปยังนายบดินทร์ กรีธาธร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสมุทรปราการ โดยนายบดินทร์ได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่ากรณีเรื่องตัวเลขเงิน 1.4 พันล้านบาทที่สำนักข่าวต่างๆได้ลงนั้นยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง เพราะข้อเท็จจริงแล้วการจัดซื้อนี้เป็นการจัดซื้อจำนวนสองสัญญามี 2 ปี โดยช่วงเวลาของการจัดซื้ออยู่ที่ประมาณปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการจัดซื้อรวมอยู่ที่ 1,045 ล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อนี้ก็เป็นไปตามที่สำนักข่าวอิศราได้เปิดเผย 2 สัญญาที่เกี่ยวข้องซึ่งมีมูลค่า 427,602,500 บาท และ 618,379,000 บาท
เมื่อถามว่าแล้วตัวเลข 1,400 ล้านบาทมาจากไหน นายบดินทร์กล่าวว่าเข้าใจว่าเป็นที่ผู้ร้องแจ้งมา แล้วสื่อก็เอามาจากการร้องเรียนมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมา อบจ.ก็พูดเกี่ยวกับตัวเลขนี้มาตลอดว่าไม่ใช่ตัวเลข 1,400 ล้านบาทแต่อย่างใด ก็ต้องขอให้สื่อแก้ไขข่าวด้วย
เมื่อถามถึงโครงการโกงกางเทียมในปัจจุบัน นายบดินทร์กล่าวว่าโครงการนั้นเสร็จหมดแล้ว แต่ยังติดในส่วนของกรมเจ้าท่าที่รอให้เขาตอบกลับมาในเรื่องว่ามันเป็นไปตามกฎหมายกรมเจ้าท่าหรือไม่เท่านั้นเอง ส่วนหน่วยงานอื่นๆ อาทิกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หน่วยงานเกี่ยวกับพื้นที่ทหาร เขาตอบกลับมาหมดแล้ว และโครงการนี้ก็มีการทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือว่า EIA แล้ว
เมื่อถามเกี่ยวกับกรณีที่มีการจัดซื้อจัดจ้างโดยเจาะจงเพียงบริษัทเอกชนเพียงรายเดียวคือบริษัท อาร์โต้ เอ็นจิเนียร์ จำกัด นายบดินทร์กล่าวว่าการจัดซื้อนั้นถือว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง และเรื่องของกฎกระทรวงในเรื่องของนวัตกรรม ก็คือว่าเขามีแนวคิดว่าต้องการนวัตกรรมแบบนี้ ซึ่งมีบริษัทแห่งเดียวที่สามารถจะทำได้ เขาก็สามารถจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงได้ โดยกฎกระทรวงนั้นออกมาแล้วว่า "ถ้าเป็นเรื่องนวัตกรรมนั้นสามารถเจาะจงได้เลย"
เมื่อถามถึงกรณีว่าของที่เก็บไว้ในโกดังเป็นระยะเวลานานนั้นอาจจะมีประเด็นเรื่องค่าเสียโอกาสเพิ่มเติมหรือไม่ นายบดินทร์กล่าวว่าวันก่อนที่มีการลงพื้นที่ ก็ได้ไปถามกับผู้ขาย เขาก็ยอมรับเหมือนกันว่ามันเสียโอกาสเพราะทิ้งไว้นานแล้วไม่ได้ไปติดตั้ง ซึ่งเขาก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของการเก็บรักษาที่ว่ามานี้
"ผมมองว่าถ้าหากบริษัทผู้รับจ้างขอปฏิเสธความรับผิดชอบ บอกว่าเมื่อเขาส่งมอบ คุณตรวจรับแล้ว เขาแค่มีหน้าที่นำไปติดตั้งแต่ ถ้ามันเสียหาย สูญหายเขาไม่รับผิดชอบนะ อันนี้ยุ่ง แต่ถ้าผู้รับจ้างเขายืนยันจะรับผิดชอบ อันนี้ก็ยังไม่เกิดปัญหา" นายบดินทร์กล่าวและยอมรับกับสำนักข่าวอิศราว่าเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นความเมตตาของผู้รับจ้างแล้วว่าจะยังไงต่อ แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคต
ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.สมุทรปราการกล่าวต่อว่าในการลงพื้นที่นั้นมีการให้ข้อสังเกตกันหลายเรื่อง อาทิ เมื่อไปปักโกงกางในทะเลแล้วจะให้เรือสังเกตอย่างไร ถ้ามันไม่มีแนวบ่อ ถ้าหากเรือชนแล้วเสียหายใครจะรับผิดชอบ
เมื่อถามว่าข้อสังเกตุเรื่องปัญหาดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่กรมเจ้าท่าเขาจะต้องไปพิจารณาด้วยใช่หรือไม่ นายบดินทร์กล่าวว่ากรมเจ้าท่าเขาต้องไปดูว่ามันเป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทยว่าจะมีผลกระทบอะไรไหม อยู่ในเขตของเจ้าท่าหรือไม่
"ซึ่งแต่เดิมเขาบอกว่าเจ้าท่าไม่ดู แต่ว่าทำไมรอบนี้เจ้าท่าเขาลงมาดู เรื่องนี อบจ.เขายังไม่ได้มาชี้แจง ก็คงต้องขอเอกสารหลักฐานจากทางเขาด้วย" นายบดินทร์กล่าวและกล่าวต่อไปว่า ป.ป.ช.ก็พยายามเทียบเรื่องของความคุ้มค่าในเรื่องนี้เหมือนกัน
นายบดินทร์ กรีธาธร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสมุทรปราการ