เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'เสริมศักดิ์ ชื่นเจริญ' อดีตผู้ช่วยเลขาธิการ สนง.กองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร-พวกรวม 9 คน ทุจริตเบิกค่าใช้จ่ายเดินทางไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัด ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้อง - ป.ป.ช.ค้าน อสส.ไม่ฎีกาสู้คดีต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายเสริมศักดิ์ ชื่นเจริญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กับพวกรวม 9 คน ทุจริตในการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัด
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 11 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2565 ได้พิจารณาแล้วมีมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฏีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับพ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 11 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด หรือผู้ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐผู้ใด โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท