ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ด.ต.อาดล อาดำ ' อดีตนายก อบต.เกาะสาหร่าย สตูล จัดซื้อคัมภีร์อัลกุรอ่านมิชอบ- เบิกค่าเดินทางไปราชการเป็นเท็จ' ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษ จำคุก 1 ปี รอลงอาญา หลังรับสารภาพ - ปรับ 10,000 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ด.ต.อาดล อาดำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล กรณีจัดซื้อคู่มือประกอบการเรียนรู้ทางศาสนาอิสลาม (คัมภีร์อัลกุรอ่าน) โดยมิชอบ และอนุมัติเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ อบต.เป็นเท็จ
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 และ 162 (4) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ ที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาว่า ด.ต.อาดล อาดำ จำเลย มีความผิดตามมาตรา 162 (4) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ลงโทษแก่จำเลย ตามมาตรา 90
จำคุก 2 ปี และปรับ 20,000 บาท
จำเลย ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และ ปรับ 10,000 บาท
โทษจำคุกให้รอการลงโทษ มีกำหนด 2 ปี และให้คุมประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29 , 30
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 162 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่
(1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ
(2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง
(3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจดเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้น หรือ
(4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท