ตร.แจ้งเวียนแนวปฏิบัติหลัง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 พร้อมบัญชีเงินเดือนตำรวจ เงินประจำตำแหน่ง มีผลบังคับใช้ 17 ต.ค. กำหนดให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ รับเรื่องร้องเรียนการแต่งตั้งโยกย้าย มีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ สำหรับปชช. ยุบตำรวจรถไฟภายใน 1 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงรอง ผบ.ตร. และ จดช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จตช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบช. และ จตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง การดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ความว่า
ตามที่ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนที่ 64 ก ลง 16 ต.ค.65 โดยกำหนดให้มีผลใช้บังคับในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับ 17 ต.ค.65) เป็นต้นไป นั้น
เพื่อให้การปฏิบัติงานของ ตร. เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงขอกำชับและซักซ้อมการปฏิบัติ โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้
1. ทุกหน่วยแจ้งให้ข้าราชการตำรวจทุกนายทราบ และทำความเข้าใจกับกฎหมายดังกล่าว โดยสามารถดาวน์โหลต พ.ร.บ.ฯ ได้ที่เว็บไซต์ของราชกิจจานุเบกษา www.ratchakitcha.soc.go.th หรือ ดาวน์โหลด พ.ร. บ.ฯ และสรุปย่อสาระสำคัญได้ที่ QR Code ท้ายหนังสือนี้ และแอปพลิเคชันแทนใจ รวมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับชั้นประชุมขี้แจงให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดทราบในการประชุมของแต่ละหน่วย
2. เมื่อ พ.ร.บ. ฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ข้าราชการตำรวจทุกนายมีสถานะเป็นข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บนี้ (มาตรา 129 และส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.ฏ.แบ่งส่วนราชการ ตร. พ.ศ.2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นส่วนราชการตาม พ.ร.บ.นี้ จนกว่าจะมี พ.ร ฏ หรือกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการฉบับใหม่ ทั้งนี้ ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ พ.ร.บนี้ใช้บังคับ ตามมาตรา 162 ดังนั้น ทุกหน่วยงานจึงมีหน้าที่และอำนาจที่จะต้องปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่อย่างต่อเนื่องต่อไป
3. พ.ร.บ.นี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 17 ต.ค.65 เป็นตันไป โดยยกเลิก พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น การใช้อำนาจสั่งการ อนุมัติ หรือดำเนินการใด ๆ ของผู้บังคับบัญชา ในแต่ละระดับ ซึ่งเดิมอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 เช่น การบรรจุ การเลื่อนขั้นเงินเดือน การรักษาราชการแทน การปฏิบัติราซการแทน การดำเนินการทางวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ เป็นต้น จะต้องดำเนินการโดยอาศัยฐานอำนาจตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในบทเฉพาะกาล ตามมาตรา 179 ได้บัญญัติให้ในระหว่างที่ยังมิได้ตรากฎหมายลำดับรองเพื่อปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ ให้นำ พ.ร.ก.กฎกระทรวง กฎ ก.ตร. ข้อบังคับ ระเบียบ หรือมติ ก.ตร. ซึ่งใช้อยู่เดิมมาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้ง กับ พร.บ.นี้ จึงให้พีงระมัตระวังการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามกฎหมายใหม่ อีกทั้งในกรณีที่ไม่อาจนำกฎหมายลำดับรองที่มีอยู่ในปัจจุบันมาใช้บังคับได้ การจะดำเนินการประการใดให้เป็นไปตามที่ ก.ตร. กำหนด ซึ่งต้องไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ.นี้ รวมทั้งมาตรา 180 ซึ่งบัญญัติบทเฉพาะกาลสำหรับการปฏิบัติกรณีข้าราชการตำรวจที่มีกรณีกระทำผิดวินัยหรือกรณีที่สมควรให้ออกจากราชการอยู่ก่อนวันที่ พร.บ.นี้ใช้บังคับ และมาตรา 181 การปฏิบัติกรณีเรื่องอุทธรณ์และร้องทุกข์ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ หรือในวันหรือหลังวันที่ พ.ร.บ.นี้ ใช้บังคับ ก็ให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจดำเนินการตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าวด้วย
4. เฉพาะการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ตามมาตรา 178 บัญญัติว่า ในวาระเริ่มแรก ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ (ภายใน 14 เม.ย.66) การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ ดังนั้นการคัดเลือกและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี พ.ศ.2565 จึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2561 รวมทั้งระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง ที่เกี่ยวข้องภายในระยะเวลาดังกล่าว
5. บทบัญญัติที่เป็นสาระสำคัญและมีหลักการที่แตกต่างจากกฎหมายเดิม ซึ่งมีผลใช้บังคับทันที เช่น การห้ามสั่งให้ข้าราชการตำรวจที่สังกัดสถานีตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการอื่นที่มีใช่สถานีตำรวจ เว้นแต่ ในคำสั่งนั้นจะสั่งให้ข้าราชการตำรวจอื่นมาปฏิบัติหน้าที่นั้นแทนในสถานีตำรวจนั้น (มาตรา 92) การดำเนินการทางวินัย (หมวด 7) การอุทธรณ์ (หมวด 5) การร้องทุกข์ (หมวด 10) เป็นต้น ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นและทุกหน่วยงาน ดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสั่งให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการอื่นที่มิใช่สถานีตำรวจ กรณีการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ต่าง 1 ทั้งในระดับ ตร., บช/ภ. บก /ภ.จว. แล้วแต่กรณี ให้พิจารณาใช้ข้าราชการตำรวจจากหน่วยงานฝ่ายอำนวยการ หรือหน่วยป้องกันปราบปรามเฉพาะทางที่มีลักษณะงานตรงกับภารกิจและหน้าที่ของศูนย์นั้น 1 ไปปฏิบัติหน้าที่แทน
6. สำหรับการสั่งข้าราชการตำรวจประจำหรือสำรองราซการภายในอำนาจ เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำกฎให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ดังนั้น หากมีความจำเป็นจะต้องสั่งการใด ๆ ให้ประสานงานหน่วยงานฝ่ายอำนวยการของ ตร. ที่รับผิดชอบ (ฝ่ายแต่งตั้ง ทพ.) ก่อน
7. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดทำกฎหมายลำดับรองและคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการตามร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. เร่งรัดการดำเนินการเพื่อจัดทำกฎหมายลำดับรอง การคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการต่าง ๆ ได้แก่ ก.ต.ช. ก.ตร. ก.พ.ค.ตร. และ ก.ร.ตร. และการดำเนินการอื่น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.นี้ให้เสร็จสิ้นตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และให้รายงาน ผบ.ตร. ทราบทุกระยะ
8. กรณีกองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา (มาตรา 176) กำหนดให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ ภาระผูกพัน และเงินงบประมาณของกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา ไปยังกองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกัน และปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ดังนั้น เพื่อให้การสะสางและปิดบัญชีกองทุนเพื่อการสืบสวน และสอบสวนคดีอาญาเสร็จสิ้นโดยเร็ว สามารถส่งเอกสารให้ สตง. ตรวจสอบความถูกต้องได้ตามระยะเวลาที่กำหนด จึงให้หน่วยจัดสรรและหน่วยบริหารเงินกองทุนทุกหน่วยยุติการเบิกจ่ายเงิน กองทุนเพื่อการสืบสวน และสอบสวนคดีอาญา ภายใน 17 ต.ค.65 และส่งคืนเงินที่ยังมีได้เบิกจ่ายทั้งหมด โอนเงินเข้าบัญชี "บัญชีเงินฝากเพื่อการรับคืนเงินกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาปทุมวัน บัญชีเลขที่ 0.8-0-16409-9 ให้เสร็จสิ้นภายในวันศุกร์ที่ 21 ต.ค.65
9. กรณีที่หน่วยมีข้อสงสัยในการปฏิบัติในเรื่องใด สามารถประสานสอบถามข้อมูลได้ที่หน่วยงานฝ่ายอำนวยการของ ตร. รายละเอียดตามเอกสารที่แนบ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 27 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้การบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีมาตรการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ และให้ข้าราชการตำรวจประพฤติปฏิบัติตนเหมาะสมแก่เกียรติศักดิ์ของตำรวจ และอยู่ในจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 258 ง. ด้านกระบวนการยุติธรรม (4) ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
อ่านประกาศฉบับเต็ม: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/A/064/T_0001.PDF