ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา "จรินทร์ แว่นแก้ว " อดีตนายก อบต.พิหารแดง อำเภอเมือง สุพรรณบุรี รับสารภาพจัดซื้อถังขยะสูงกว่าราคาท้องตลาดแล้วนำเงินส่วนต่างไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา - พวก 4 ราย โดนด้วย คนละ 1 ปี 8 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายจรินทร์ แว่นแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พิหารแดง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี กับพวก 4 ราย คือ นางสาวมินตรา ป้องคำ นางสาวขวัญเรือน กุมปรุ นายบุญลือ เจริญผล นายมาโนชญ์ ปิ่นปรีชาชัย จัดซื้อถังขยะสูงกว่าราคาตามท้องตลาด แล้วนำเงินส่วนต่างไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 86 และพ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาดังนี้
นายจรินทร์ แว่นแก้ว จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 มาตรา 83
นางสาวมินตรา ป้องคำ จำเลยที่ 2 นางสาวขวัญเรือน กุมปรุ จำเลยที่ 3 นายบุญลือ เจริญผล จำเลยที่ 4 นายมาโนชญ์ ปิ่นปรีชาชัย จำเลยที่ 5 มีความผิดตาม มาตรา 151 พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2522 มาตรา 123/1 ประกอบ มาตรา 86 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
ให้ลงโทษ นายจรินทร์ แว่นแก้ว จำเลยที่ 1 ตามมาตรา 151
ลงโทษนางสาวมินตรา ป้องคำ จำเลยที่ 2 นางสาวขวัญเรือน กุมปรุ จำเลยที่ 3 นายบุญลือ เจริญผล จำเลยที่ 4 นายมาโนชญ์ ปิ่นปรีชาชัย จำเลยที่ 5 ตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86
จำคุก นายจรินทร์ แว่นแก้ว จำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี
จำคุก นางสาวมินตรา ป้องคำ จำเลยที่ 2 นางสาวขวัญเรือน กุมปรุ จำเลยที่ 3 นายบุญลือ เจริญผล จำเลยที่ 4 นายมาโนชญ์ ปิ่นปรีชาชัย จำเลยที่ 5 คนละ 3 ปี 4 เดือน
จำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง
คงจำคุก นายจรินทร์ แว่นแก้ว จำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน
คงจำคุก นางสาวมินตรา ป้องคำ จำเลยที่ 2 นางสาวขวัญเรือน กุมปรุ จำเลยที่ 3 นายบุญลือ เจริญผล จำเลยที่ 4 นายมาโนชญ์ ปิ่นปรีชาชัย จำเลยที่ 5 คนละ 1 ปี 8 เดือน
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อ่านข่าวในหมวดเดียวกันประกอบ
- รอลงอาญา! คุก1ปี 'พิบูลย์ รัชกิจประการ'ส.ส.ภูมิใจไทย คดีสร้างตึก รร.ช่วงนั่งนายกฯสตูล
- คุก 50 ปี! อดีตครู ค.ศ.2 ศรีสะเกษ ทุจริตเงินสวัสดิการศึกษาบุตรข้าราชการ
- ยืนโทษ! คุกคนละ 1 ปี อดีตนายก อบต.โชคชัย-พวก สารภาพทำถนนลูกรังไม่เป็นไปตามรูปแบบ
- ไม่รอลงอาญา! คุก 3 ปี 4 ด. อดีตนายกเทศฯ หินเหล็กไฟ บุรีรัมย์ ยักยอกสิ่งปลูกสร้าง
- คุกอีก 6 ปี ! คดีที่ 2 อดีตนายก อบต.กมลา ภูเก็ต เอื้อเอกชนรับงานบูรณะเขื่อนหิน