ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สมหมาย จันทร์โสดา' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหินเหล็กไฟ บุรีรัมย์ ยักยอกสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินสร้างสนง. ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษ จำคุก 3 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา- ยกฟ้องพวก 1 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสมหมาย จันทร์โสดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก 1 ราย คือ นายวุฒิไกร นูโพนทอง ยักยอกสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่เทศบาลตำบลหินเหล็กไฟ ซื้อมาเพื่อก่อสร้างสำนักงานเทศบาลตำบลหินเหล็กไฟไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 151, 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายสมหมาย จันทร์โสดา จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 147 , 151 , 152 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 147
ลงโทษจำคุก 5 ปี
ทางนำสืบของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม
คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
ยกฟ้อง นายวุฒิไกร นูโพนทอง จำเลยที่ 2
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2565 เห็นชอบในกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน