ม.บูรพา ออกแถลงการณ์พร้อมตรวจสอบ หลังมีข่าวคณบดีรัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ พร้อมพวกถูก ปปป.ตั้งข้อหาทุจริต กรณีการจัดทำโครงการวิชาการส่อเอื้อประโยชน์เข้าตัวเอง
สืบเนื่องจากที่ปรากฎเป็นข่าวว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ รอง ผบก.รฟ. ช่วยราชการ บก.ปปป., พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปปป. พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เดินทางมายังมหาวิทยาลัยบูรพา ต.แสนสุข อ.เมืองจ.ชลบุรี เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรพงษ์ บัวหล้า อายุ 48 ปี คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ นางศญาพัฒน์ กิตติสารวัณโณ อายุ 46 ปี รักษาการหัวหน้าสำนักงานคณบดี ในความผิดฐาน “เป็นผู้รักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นพนักงานรักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันใช้อํานาจในหน้าที่โดยหารทุจริต,เป็นพนักงาน มีหน้าที่จ่ายทรัพย์ ร่วมกันจ่ายทรัพย์นั้นเกินกว่าที่ควรจ่าย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และ เป็นพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ในกรณีการจัดทำโครงการวิชาการเป็นการจัดทำในลักษณะต้องสงสัยว่าจะมีความไม่ชอบมาพากล หรือ มีการหาผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยบูรพาได้ทำแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวออกมามีเนื้อหาระบุว่า "กรณีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการจัดโครงการบริการวิชาการ"
ตามที่ได้ปรากฏในสื่อว่ามีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการจัดโครงการบริการวิชาการ ของมหาวิทยาลัยเมื่อปี พ.ศ. 2557 - 2561 โดยมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยบูรพานั้น มหาวิทยาลัยบูรพายึดมั่นในการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลเสมอมาและจะไม่ยินยอม ให้เกิดการกระทําใด ๆ ที่เป็นการทุจริตในการดําเนินงานของมหาวิทยาลัย
จึงขอชี้แจงให้ทราบว่า มหาวิทยาลัยได้มอบหมายผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายในการพิสูจน์ข้อกล่าวหาดังกล่าวให้เป็นที่กระจ่างต่อไป