สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการกวาดล้างปืนเถื่อน ซีซั่น 2 สั่งระดมตำรวจในสังกัดเกือบ 900 นาย ปิดล้อม,กวาดล้างค้าปืนออนไลน์ 144 จุด ครอบคลุม 50 จังหวัดทั่วประเทศ หลัง ผบ.ตร.สั่งกวาดล้างปืนเถื่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อเวลา 06.00น.วันที่ 1 ต.ค. ที่ ลานหน้าอาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรฐ์ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบช.ก. พร้อมผู้บังคับการในสังกัด บชก. ร่วมปล่อยแถวตำรวจ 10 กองบังคับการ เกือบ 900 นาย เปิดปฏิบัติการกวาดล้างปืนเถื่อน ซีซั่น 2 ระดมปิดล้อมกวาดล้างตรวจค้นอาวุธปืนเถื่อน และค้าขายปืนออนไลน์ รวม 144 จุด 127 เป้าหมาย 10 หมายจับ ครอบคลุม 50 จังหวัดทั่วประเทศ
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับการระดมปิดล้อมทั่วประเทศครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ช่วงที่ผ่านมา มีเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุบ่อยครั้งหลายเหตุการณ์ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บางเหตุการณ์มีประชาชนผู้ยริสุทธ์ ตัองตกเป็นเหยื่อทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงได้สัางการให้ตำรวจในสังกัด บช.ก.เปิดปฏิยัติการกวาดล้างขึ้นในครั้งนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเป้าหมายสำคัญครั้งนี้เป็นเครือข่ายค้าปืนออนไลน์ อยู่ในพื้นที่ คลองสามวา เขตคลองสามวา และที่จังกวัดอุทัยธานี หลังสืบสวนพบเบาะแส ว่ามีการสั่งอุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืนมาจากต่างประเทศ ก่อนจะสำแดงเท็จเป็นชิ้นส่วนอะไหล่จักรยาน สำหรับผลการปฏิบัติครั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อนึ่งการออกคำสั่งให้ปูพรมกวาดล้างขบวนการค้าปืนเถื่อนดังกล่าวนั้นมาจากข้อสั่งการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
โดยในการแถลงผลปฎิบัติการ สอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน season 2” (CIB Ghost Guns Operation) ร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ซึ่งได้มีการระบุรายละเอียดการจับกุมผู้ต้องหากว่า 61 คน ยึดของกลางอาวุธปืน 145 กระบอก
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้การก่ออาชญากรรมมีลักษณะที่มีการใช้อาวุธปืนประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ปล้น ชิงทรัพย์ ในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเพิ่มมากขึ้น อาทิ เหตุกราดยิงร้านอาหารกลางเมืองอุบลราชธานี, เด็กช่างกลทำปืนลั่นใส่เพื่อน เป็นต้น ซึ่งหลายๆ เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านช่องทางออนไลน์
จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. กวาดล้างการค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ภายใต้ปฏิบัติการ “สอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน season 2” (CIB Ghost Guns Operation) จุดตรวจค้นทั้งหมด 126 จุด เป้าหมาย 115 ราย ครอบคลุม 50 จังหวัดทั่วประเทศ ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 60 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาวุธปืนจำนวน 8 ราย ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนจำนวน 52 ราย และผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทิน ตร. จำนวน 1 ราย ในส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้มีจำนวนกว่า 9,976 ชิ้น เป็นอาวุธปืนจำนวนกว่า 145 กระบอก แบ่งเป็นอาวุธปืนทั่วไปจำนวน 70 กระบอก อาวุธปืนสงครามจำนวน 4 กระบอก และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 71 กระบอก ซึ่งตามรายการอาวุธปืนที่ตรวจยึดมาได้นั้น ตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนจำนวน 70 กระบอก และอาวุธปืนไม่มีทะเบียนจำนวน 71 กระบอก นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนจำนวน 8,956 นัด พร้อมของกลางรายการอื่นๆ เช่น แท่นกลึง ลำกล้องปืน และแมกกาซีน รวมกว่า 875 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่รับผิดชอบ
พล.ต.ท.จิรภพฯ กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งใช้ระยะเวลาหลายเดือน ทำให้พบว่ามีกลุ่มเครือข่ายลักลอบขายปืนเถื่อนผ่านทางออนไลน์จำนวนมาก จึงเกิดเป็นยุทธการ “สอบสวนกลาง
กวาดล้างปืนเถื่อน season 2” (CIB Ghost Guns Operation) เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มขบวนการอาชญากรรม มือปืนรับจ้าง และเยาวชน นำปืนเถื่อนมาก่อเหตุจนนำไปสู่ความสูญเสียในหลายๆ คดีดังที่ปรากฏเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ และถือเป็นการป้องกันอาชญากรรมในรูปแบบอื่นๆ ที่อาจจะตามมาด้วย พร้อมกับยืนยันว่าจะทำการสืบสวนขยายผล เพื่อทําการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่จะทำการซื้อขายอาวุธปืน หรือส่วนประกอบอาวุธปืนต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ทราบว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ทั้งนี้ ในการนำเอาอาวุธปืนมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้กระทำก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ด้วยเช่นกัน