"อิศรา" ตามคุ้ยเบื้องลึกคดีอดีตผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 เรียกรับเงินสินบน 20 ล้าน พบข้อมูลใหม่ชาวไต้หวันถูกรีด ที่แท้เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีฉ้อโกงแบงก์เข้าไทย หลังถูกรวบคาสุวรรณภูมิ ส่งตัวฟ้องศาลสมุทรปราการ มีผู้พิพากษารายสองเข้ามาเกี่ยวข้อง อนุญาตให้ประกันตัว ก่อนถูกย้าย 24 ชม. ก.ต.สั่งตั้งกรรมการสอบ เส้นทางเงินไม่ถึงโดนลงโทษแค่ผิดวินัยไม่ร้ายแรง-ภาคทัณฑ์
กรณี นายฐานันดร กิตติวงศากูล อดีตผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาหรือฐานความผิดกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เกี่ยวกับการเรียกรับเงินจำนวนสูงถึง 20 ล้านบาท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีจำเลย โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีนัดพิจารณาคดีในวันที่ 10 ต.ค.2565 นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่าคดีนี้ มีจุดเริ่มจากการที่มีชาวไต้หวันกลุ่มหนึ่ง หลบหนีคดีเข้ามาในประเทศไทย และถูกจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และถูกส่งตัวขึ้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในระหว่างการพิจารณาคดี นายฐานันดร ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้เรียกรับเงินจากชาวไต้หวันกลุ่มนี้ เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีความ แต่นายฐานันดรทำไม่สำเร็จ
ก่อนที่จะย้อนกลับไปเรียกเงินเพิ่มจากชาวไต้หวันกลุ่มนี้เพิ่ม และถูกซ้อนแผนถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 และนำไปสู่การสอบสวนของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.)และมีมติไล่ออกจากราชการในเวลาต่อมา พร้อมส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีทางอาญาในเวลาต่อมา
- เรียกสินบนชาวไต้หวัน 20 ล.! ป.ป.ช.ฟ้องเองคดีอดีต พ.ศาลอุทธรณ์ -ให้ยึดทรัพย์ด้วย
- ทำไม่สำเร็จ-ย้อนขอเงินเพิ่ม! เบื้องลึก คดีอดีต พ.ศาลอุทธรณ์ เรียกสินบนชาวไต้หวัน 20 ล.
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลเชิงลึกคดีนี้เพิ่มเติมพบว่า กลุ่มชาวไต้หวันที่หลบหนีคดีเข้ามาในประเทศไทย และถูกจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิดังกล่าว มีคดีความฉ้อโกงเงินธนาคารในไต้หวัน และถูกทางการไต้หวันออกหมายจับขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมายังไทย
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการฟ้องร้องดำเนินคดีประเทศไทย นอกจากกรณีการเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อแลกเปลี่ยนการช่วยวิ่งเต้นคดีในส่วนของ นายฐานันดรแล้ว
ยังมีข้อมูลสำคัญอีกชุดหนึ่งเกี่ยวกับพฤติการณ์ของผู้พิพากษาอีกราย ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในประเด็นเรื่องการอนุญาตให้ประกันตัว
กล่าวคือ ในช่วงชาวไต้หวันกลุ่มนี้ ถูกจับกลุ่มตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ และส่งตัวฟ้องดำเนินคดีที่ศาลสมุทรปราการ มีการยื่นขอประกันตัว ผู้พิพากษารายใหม่นี้ได้อนุญาตให้ประกันตัวไป แต่ชาวไต้หวันกลุ่มนี้ก็ถูกอายัดตัวในเวลาต่อมาตามหมายจับในคดีอื่น
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้พิพากษารายนี้ ถูกออกคำสั่งย้ายด่วนออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมถูกคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ตั้งกรรมการสอบสวนด้วย
ขณะที่ผลการสอบสวนไม่พบหลักฐานการเงินเชื่อมโยงไปถึง แต่ถูกลงโทษวินัยไม่ร้ายแรง และคำสั่งภาคทัณฑ์
ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ สำนักข่าวอิศราจะติดตามมาเสนอต่อไป