‘สหภาพฯวิทยุการบินแห่งประเทศไทย’ นัดสมาชิกฯแต่ง ‘ชุดดำ’ ค้านกระบวนการสรรหา 'บุคคลภายนอก' เข้าดำรงตำแหน่ง ‘รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่’ ชี้ทำลายขวัญกำลังใจคงในองค์กร หวั่นเปิดทางกลุ่มทุนภายนอกแสวงหาประโยชน์
.......................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (สรร.ว.ท.) จะมีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2565 ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว สรร.ว.ท. ได้นัดหมายให้สมาชิกฯร่วมกันแต่งชุดดำ เพื่อคัดค้านกรณีคณะกรรมการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ยังคงเดินหน้านโยบายสรรหาผู้บริหารระดับสูงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จากบุคคลภายนอก
นายเมธี คำแหง ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจวิทยุการบินแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ว่า การนัดหมายสมาชิกฯให้ร่วมกันแต่งชุดดำในครั้งนี้ เพื่อเป็นแสดงสัญลักษณ์ในการคัดค้านกระบวนการสรรหาบุคคลภายนอก เข้ามาเป็นผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจและความก้าวหน้าในอาชีพของคนภายในองค์กรแล้ว ยังอาจเป็นช่องทางให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาล้วงลูกได้มากขึ้น
“การสรรหาบุคคลภายนอกให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และยังให้เป็นพนักงานด้วย ทำให้ความรู้สึกของพนักงานเริ่มไม่มั่นใจ เพราะตามเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ พนักงานมีสิทธิ์ไต่เต้าไปเรื่อยๆจาก 1 ถึง 10 แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ขณะที่การสรรหาในครั้งนี้ เราไม่มั่นใจว่ามีธงหรือไม่ แต่ก็คิดว่าคงมีธงแล้ว ไม่อย่างนั้น คงไม่คิดโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้เบอร์ 1 การเมืองก็ส่งมาอยู่แล้ว แต่เราไม่อยากให้เกิดในระดับรองฯอีก” นายเมธี กล่าว
นายเมธี ยังระบุว่า ตามโครงสร้าง บวท. ซึ่งกำหนดให้มีรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้ 5 คน นั้น เดิมทีผู้บริหารระดับสูงของ บวท. ชี้แจงกับสหภาพฯว่า การสรรหาฯในครั้งนี้ จะไม่ยุ่งกับตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ 3 ตำแหน่ง คือ ด้านวิศวกรรมจราจรทางอากาศ ,ด้านปฏิบัติการ และด้านมาตรฐานและความปลอดภัย แต่ล่าสุดกลับไม่มีความชัดเจนว่า ตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่เปิดสรรหาจากบุคคลภายนอกมีด้านใดบ้าง
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา สรร.ว.ท. ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการและกรรมการ บวท. เพื่อคัดค้านการสรรหารองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. จากบุคคลภายนอก และขอให้บอร์ด บวท. ทบทวนนโยบายดังกล่าว โดยให้เหตุผลการคัดค้านใน 5 ประเด็น ได้แก่
1.การแก้ไขปรับเปลี่ยนประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับสภาพการจ้าง ซึ่งโครงสร้างตำแหน่งงาน และเส้นทางการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานของพนักงานนั้น ถือเป็นสภาพการจ้าง ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างที่เบียดบังตำแหน่งงานจากโครงสร้างเดิม โดยสามารถให้บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาได้ ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างฝ่ายเดียว เป็นการกระทำที่ขัดกับ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543
2.พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนังงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 ได้ระบุการสรรหาเฉพาะผู้บริหารสูงสุดเท่านั้น เช่น การกำหนดวาระ และการยกเว้นว่าสัญญาจ้างนั้น ไม่อยู่ในการบังคับแห่งกฎหมายคุ้มครองแรงงานกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และกฎหมายอื่นๆ และการกำกับการบริหาร หรือค่าตอบแทน แต่มิได้มีการระบุถึงการสรรหาผู้บริหารในระดับรอง
ดังนั้น คุณสมบัติหรือสัญญาจ้างที่จะเกิดขึ้นในการจ้างรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จะไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย คณะกรรมการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ไม่มีอำนาจนั้น
3.ปิดกั้นการมีส่วนร่วมในการบริหาร และการส่งเสริมระบบแรงงานสัมพันธ์ ของพนักงาน และสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ซึ่งถือเป็นปัจจัยในการบริหารองค์กรแบบธรรมาภิบาลที่ดี บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด มิได้มีการชี้แจงเหตุผลความจำเป็น การรับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน หรือรับฟังคิดเห็นจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจวิทยุการบินแห่งประเทศไทย
มีการดำเนินการที่เร่งรีบในกระบวนการแก้ไขคำสั่งในการเปิดให้สามารถสรรหาบุคคลภายนอก เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นจะมีอำนาจในการบริหาร มีอำนาจในการให้คุณให้โทษกับพนักงาน มีอำนาจในการตัดสินใจในงบประมาณลงทุนที่อาจไม่ก่อเกิดรายได้ให้กับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ในขณะที่บริษัทฯ ยังอยู่ในสภาวะวิกฤตด้านการเงิน
4.เป็นการทำลายระบบบริหารทรัพยากรบุคคล ของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ที่มีโครงสร้างการบริหาร ยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรขององค์กร ทำลายขวัญกำลังใจของพนักงานฝ่ายบริหารที่มีความรู้ความสามารถ ที่จะสามารถเลื่อนตำแหน่งถึงผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ใด้ เป็นการทำลายวัฒนธรรมองค์กรที่ดี แบ่งแยกความรักความสามัคคีของพนักงานในอนาคต
5.เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนภายนอก เข้ามาแสวงหาประโยชน์จากองค์กร เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง อีกทั้งระบบการควบคุมการบริหารจัดการของค่าตอบแทนบุคคลเหล่านั้น มิได้มีขั้นตอน และกฎหมายใดที่ใช้ในการควบคุมกำกับดูแล และยังไม่เห็นถึงความคุ้มค่าในการที่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จะสรรหาบุคคลภายนอกมาดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่