'ศรีสุวรรณ' จี้ กรมทางหลวงสอบทั่ว ปท. หลังพบป้ายหาเสียง 'บิ๊กป้อม' ประชาสัมพันธ์ผลงานทั่วภาคอีสานก่อนยุบสภา สงสัยขอกรมทางหลวงแล้วหรือไม่ เล็งยื่่น กกต.สอบ ป้ายหาเสียงพรรคการเมืองอื่นด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2565 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมทางหลวงขอให้สั่งการไปยังผู้อำนวยการแขวงทางหลวงต่างๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานตอนเหนือ หลังมีการขึ้นป้ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือบิ๊กป้อม หน.พรรคพลังประชารัฐ โฆษณาผลงานของพรรค อยู่ตามริมถนนเขตทางหลวงสายสำคัญ ๆ ทั่วอีสาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการยุบสภา ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่แต่อย่างใด การติดตั้งป้ายหาเสียงต้องขออนุญาตจากเจ้าของพื้นที่และเสียภาษีเสียก่อน
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมจัดเวทีพบปะพูดคุยผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน ในวันนี้วันที่ 17 กันยายน 2565 นี้ ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ภายใต้ชื่องาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน” นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีซึ่งเป็นแกนนำของพรรคอีกหลายคน
การขึ้นป้ายหาเสียงริมถนนสายหลักในพื้นที่ภาคอีสานเหนือ ซึ่งเป็นการโชว์ผลงานต่างๆ ของพรรคพลังประชารัฐและมีรูปของพล.อ.ประวิตร ทั้งสิ้น ซึ่งป้ายลักษณะดังกล่าว มิได้มีแต่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูเท่านั้น หากแต่มีการติดกันในหลายพื้นที่ของถนนสายหลัก ซึ่งเป็นป้ายคัตเอ้าท์ขนาดใหญ่ติดตั้งริมถนน และในบริเวณป้ายโฆษณาของเอกชน ซึ่งตาม พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม 2549 จะต้องมีการขออนุญาตการติดตั้งจากผู้อำนวยการทางหลวงเสียก่อน หากไม่ได้มีการขออนุญาต ก็ย่อมเข้าข่ายความผิดตาม ม.38 วรรคสาม แห่งกฎหมายข้างต้น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น ทุกป้ายที่ติดตั้งจะต้องเสียภาษีป้ายให้กับท้องถิ่นด้วย เพราะป้ายที่ติดตั้งในพื้นที่รัฐและเอกชน โดยเฉพาะป้ายคัตเอ้าท์ขนาดใหญ่ จะต้องมีการขออนุญาตจากราชการส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ที่มีป้ายติดตั้งอยู่ด้วย พร้อมกับต้องเสียภาษีป้ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงเสียก่อนด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 5 พันถึง 5 หมื่นบาท ตาม ม. 35 แห่ง พรบ.ภาษีป้าย 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ในการดำเนินการเรียกเก็บภาษีป้าย หากไม่ดำเนินการอาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป จึงยังไม่มีข้อยกเว้นในเรื่องดังกล่าว
โดยสมาคมฯจะแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อสั่งการไปยังสำนักงาน กกต.ทั่วประเทศทุกจังหวัด ให้ตรวจสอบป้ายหาเสียของทุกพรรคการเมืองที่เริ่มติดตั้งกันมากขึ้นแล้วด้วย เพราะจะต้องถูกนำไปกำหนดในค่าใช้จ่ายของพรรคหรือของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งถัดไปนี้ด้วย ทั้งนี้นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมต่อไป