สวจ.อยุธยาฯ ยังไม่ทราบเรื่อง หลังเหตุจับวัฒนธรรมจังหวัดทุจริตเงิน 8 หมื่นบาท เผยที่ผ่านมาก็มาทำงานตามปกติ ขณะ วธ.เผยปลัดทราบเรื่องแล้ว สั่งกองกฎหมายติดตามข้อมูล ตรวจสอบทุจริต สวจ.ทั่วประเทศแล้ว
สืบเนื่องจากที่ปรากฎเป็นข่าวกรณี เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าปฏิบัติการวางแผนเข้าจับกุมนางจุรีพร ขันตี ตําแหน่งวัฒนธรรมจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ขณะส่งมอบเงิน จํานวน 80,000 บาท เพื่อเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงและพิสูจน์เจตนาทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการจัดทําโครงการจัดพิธีกรรม ทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักษาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ณ วัดใหญ่ชัยมงคล เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
- ฉบับเต็ม! เปิดยุทธการจับสด วธ.อยุธยา ทุจริต 8 หมื่น จ้างทิพย์จัดพิธีกรรมบวงสรวงเทพยดา
- ทุจริตเงิน 8 หมื่น! จับสด วธ.อยุธยา จ้างจัดทิพย์พิธีกรรมบวงสรวงเทพยดาวัดใหญ่ชัยมงคล
จากกรณีดังกล่าวนั้นผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ติดต่อสอบถามไปยังสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดฯ ได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราเพียงสั้นๆว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ยังไม่มีใครทราบเลยว่าจะเกิดขึ้น ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ที่ผ่านมานางจุรีพรก็เข้ามาทำงานโดยปกติมาโดยตลอดยังไม่เห็นว่าจะมีเหตุการณ์อะไรตามที่ปรากฎเป็นข่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้นั้นปรากฎเป็นข่าวตามหน้าสื่อหลายฉบับไปแล้วว่า นายประสพ เรียงเงิน หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และโฆษก วธ. กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ทางนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัด วธ. ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างรอการรายงานข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก จ.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ปลัด วธ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้กองกฎหมายติดตามตรวจสอบข้อมูล และดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยข้าราชการพลเรือน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีการทุจริตจริง จะถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 85 ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งมาตรา 88 ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดกระทำผิดวินัย จะต้องได้รับโทษทางวินัยสูงสุด คือ การไล่ออก และจะดำเนินการทางวินัยตามหน้าที่และอำนาจ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 136 ควบคู่ไปด้วย
นายประสพ กล่าวต่อไปว่า พร้อมกันนี้ปลัด วธ. ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด แจ้งเวียนทุก สวจ.ทั่วประเทศ เน้นย้ำให้ทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ทุจริต หากพบกระทำผิดจะดำเนินการโดยเคร่งครัดทั้งทางอาญาและทางวินัย หากใครพบเห็นการทุจริตให้ร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสให้ทราบผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ติดต่อด้วยตนเองที่ วธ. ส่งไปรษณีย์มาที่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต วธ. เว็บไซต์ วธ. www.m-culture.go.th ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected]...
จากกรณีดังกล่าวนั้นผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราได้ติดต่อสอบถามกับทาง สวจ.พระนครศรีอยุธยาเพิ่มเติมว่าได้เห็นคำสั่งจากตามกระทรวงหรือยัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่ายังไม่เห็นคำสั่งอะไรเลย