บังคับคดี เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล ติดหมาย เตรียมรื้อถอนร้านค้าบุกรุกที่ดินสาธารณะหาดเลพัง-ลายัน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 178 ไร่ ผู้ว่าฯสั่งเร่งสำรวจหลังพบเหตุก่อสร้างอาคารอย่างต่อเนื่อง แม้มีหมายศาลให้ขับไล่ออกจากพื้นที่ตามคำพิพากษาแล้ว
ความคืบหน้าปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ เนื้อที่ 178 ไร่ บ้านเลพัง-ลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และเป็นคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษตามข่าวก่อนหน้านี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนนายอำเภอ และ เจ้าหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ลงพื้นที่เพื่อสำรวจและติดหมายของเจ้าพนักงานบังคับคดี บุกรุกที่ดินสาธารณะประโยน์ 178 ไร่บ้านเลพัง-ลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งยังคงพบการบุกรุกและก่อสร้างอาคารตั้งเป็นร้านอาหารริมหาด
โดยหมายบังคับคดีระบุ หมายคดีดำที่ อ1575/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อ5438/2557 คดีหมายเลขดำที่ อ1789/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อ1538/2556 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2565 และเป็นคดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต โจทก์ที่ 1 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลโจทก์ที่ 2 กับผู้บุกรุกครอบครองพื้นที่ เนื้อหาของหมายระบุอีกว่า เจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีหมายบังคับคดีให้ขับไล่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและบริวารพร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากพื้นที่ชายทะเลหาดเลพัง ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตเนื้อที่พิพาท จึงประกาศให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาล ภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ปิดประกาศมิฉะนั้นจะถือว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการบังคับคดีตามกฏหมายต่อไป ลงชื่อนายจักรี โดยเจริญ เจ้าพนักงานบังคับคดี
อนึ่งผู้สื่อข่าวในพื้นที่ได้รายงานเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า พื้นที่ที่มีการบุกรุกครอบครอง 178 ไร่ ศาลพิพากษาหมายเลขคดีแดงตั้งแต่ ปี พ.ศ.2556 และ ปี พ.ศ. 2557 แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่สามารถปฎิบัติตามกฎหมายได้ หรืออาจจะปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลานานหรือไม่จึงเป็นที่สนใจของประชาชนโดยทั่วไปและสาเหตุหนึ่งที่เป็นที่ทราบก็โดยทั่วไปว่าที่ดินแปลงดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาลหลายหมื่นล้านบาทจึงมีขบวนการที่ไม่สามารถแก้ปัญหาการบุกรุกได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจนนำไปสู่การประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารของกรมสอบสวนคดีพิเศษและผู้บริหารของจังหวัดภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดสามารถที่นำไปสู่การพัฒนาเป็นที่ดินสาธารณะที่ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกสามารถมาใช้ร่วมกันได้