ดีเอสไอ บุกค้นเอกชนร่วมฮั้วจัดซื้อชุดซ่อมถนนลาดยาง อบจ.เชียงใหม่ 2 โครงการ เสียหาย 124 ล. 3 จุด จ.ปทุมธานี-สมุทรสาคร หลังอธิบดีไฟเขียวเป็นคดีพิเศษ พบหลักฐานจัดตั้งบริษัทคู่เทียบหลายแห่งทำเอกสารเท็จให้หลงเชื่อถึงสถานะที่แท้จริง มีความสามารถทำธุรกิจเป็นตัวแทนในต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้แถลงนโยบายปี 2565 โดยจะเน้นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมคดีพิเศษใน 7 คดีหลัก ประกอบด้วย 1. คดีรถหรู 2. คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 3. ขบวนการฉ้อค่าภาษีรัฐหรือการค้าของเถื่อน 4. คดีเว็ปไซต์พนันออนไลน์ 5. คดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 6. การฮั้วประมูลการจัดซื้อจัดจ้าง และ 7. การบุกรุกพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติ โดยขับเคลื่อนตามหลักนิติธรรมมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม ให้ความเป็นธรรมต่อสังคม ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เร่งรัดการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือที่เรียกว่า “การฮั้วประมูล” โดยมุ่งหวังที่จะทำให้การจัดหาสินค้าหรือบริการของหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและมีการแข่งขันกันอย่างเสรีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่รัฐ
โดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้อนุมัติให้ทำการสอบสวนกรณีโครงการจัดซื้อชุดซ่อมถนนลาดยาง (Recycling) ในระบบประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 โครงการ ที่มีพฤติการณ์ในการตกลงร่วมกันสมยอมในการสู้ราคา โดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐ มูลค่าความเสียหายกว่า 124,000,000 บาท เป็นคดีพิเศษที่ 242/2565 และคดีพิเศษที่ 243/2565 ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา21 วรรคหนึ่ง (1) โดยมอบหมายให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการหลังจากการรับเป็นคดีพิเศษ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนพบการกระทำความผิดของนิติบุคคลและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาในโครงการดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กองปฏิบัติการพิเศษ กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นำหมายค้นของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 และหมายค้นของศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นที่ทำการของบริษัทผู้ชนะการประมูลในโครงการดังกล่าว ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 2 จุด และจังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 จุด พบพยานหลักฐานที่เพียงพอจะพิจารณาได้ว่านิติบุคคล บุคคล หรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีความเกี่ยวโยงในรูปแบบของการกระทำที่เข้าลักษณะเป็นความผิดฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
"รูปแบบของการกีดกันการเสนอราคามีลักษณะจำเพาะ มีการจัดตั้งบริษัทคู่เทียบขึ้นมาหลาย ๆ บริษัท จัดทำเอกสารเท็จมาแสดงต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ให้หลงเชื่อในสถานะที่แท้จริงหลงเชื่อในความสามารถในการทำธุรกิจและการเป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศ ตรวจค้นพบเอกสารที่เกี่ยวโยงกันของแต่ละนิติบุคคลที่ยื่นเสนอราคาขอประมูลงานในหลายมิติ พฤติการณ์เข้าข่ายเป็นการหลีกเลี่ยงการดําเนินการเสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) อย่างเป็นธรรม โดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ เอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ตามมาตรา 4 มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542"
ทั้งนี้ การกระทำความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ เป็นอาชญากรรมเศรษฐกิจที่ร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมและยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และความมั่นคงของประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ตามกรอบอำนาจหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน พร้อมทุ่มเททรัพยากร และบูรณาการการปฏิบัติงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ที่ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้องเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือทางสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรี ทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูล ผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ