‘ชวน หลีกภัย’ เตรียมออกหนังสือนัดประชุมรัฐสภา 15 ส.ค.ถกร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.ก่อนครบเส้นตาย 180 วัน ‘พรเพชร’ ปัดรับใบสั่ง-ยันไม่มีเจตนาดึงเวลา ก่อนสภาล่มเพราะองค์ประชุมไม่ครบเมื่อวานนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2565 พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา และรองประธานรัฐสภาแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบขณะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.) และมีแนวโน้มที่จะทำให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนด 180 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ส.ค.นี้
นายพรเพชร กล่าวว่า การดำเนินการประชุมเมื่อวานนี้ไม่มีการรับคำสั่งจากใคร ดำเนินการทุกอย่างด้วยความถูกต้อง ซึ่งมีการนับองค์ประชุมด้วยเครื่องครั้งแรกมีผู้เข้าประชุม 367 คนถือว่าเกินกึ่งหนึ่งไป 3 คน จากนั้นมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยขอให้นับองค์ประชุมใหม่ด้วยวิธีการขานชื่อ โดยอ้างเหตุผลว่าอาจมีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน กระทั่งมีการนับด้วยวิธีขานชื่อได้ 403 คน ทั้งนี้การให้นับองค์ประชุมมีข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ทราบกันเกือบทั่วไปว่า สมาชิกรัฐสภาบางส่วนต้องการให้มีการปล่อยให้ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นตกไป เพราะครบกำหนด 180 วันที่จะตรงกับวันที่ 15 ส.ค.2565 ขณะเดียวกันสมาชิกรัฐสภาบางส่วนก็เกรงว่าการให้ร่างกฎหมายตกไปด้วยวิธีการไม่เข้าประชุม ท่านเหล่านี้ก็กังวลว่าจะเป็นการไม่ชอบ และเกรงว่าประชาชนจะเข้าใจว่า การไม่เข้าประชุมนั้นเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ในความเห็นของตนที่ผ่านมามีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีการที่สมาชิกรัฐสภาจะใช้วิธีการไม่เข้าประชุมเพื่อให้ร่างกฎหมายตกไป
นายพรเพชร กล่าวว่า ตนจึงมีความเห็นว่า เพื่อให้เรื่องที่เกี่ยวกับวิธีการไม่เห็นชอบกฎหมายใดด้วยวิธีทำให้ไม่เป็นองค์ประชุม เพื่อให้กฎหมายตกไป เป็นวิธีการหนึ่งที่สมาชิกรัฐสภาจะใช้ดุลพินิจปฏิบัติเช่นนั้นได้หรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสมาชิกรัฐสภาแต่ละท่าน ดังนั้นตนจึงดำเนินการให้มีการนับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อซึ่งเป็นการดำเนินการที่สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเพื่อไทยได้เสนอไว้ เมื่อผลปรากฏออกมาว่า มีสมาชิกท่านใดที่เข้าประชุมในวันนี้ก็เป็นการยืนยันได้ว่า สมาชิกขานชื่อเป็นองค์ประชุมได้ปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจของสมาชิกรัฐสภาของตนแล้ว
นายพรเพชร กล่าวอีกว่า เมื่อถึงวาระของการลงมติสมาชิกรัฐสภาก็อาจจะใช้ดุลพินิจของแต่ละคนในการไม่แสดงตนได้ ถ้าหากมีการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 15ส.ค.65 แล้ววุฒิสภาต้องไปร่วมประชุมซึ่งในการประชุมวันนั้น
มีแนวโน้มที่สมาชิกรัฐสภาจะไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมอาจทำให้การประชุมล่มก็จะทำให้งานของวุฒิสภาซึ่งกำหนดไว้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ตนจะได้นำความกราบเรียนประธานรัฐสภาต่อไป
ส่วนประเด็นเรื่องการพักประชุมเป็นเวลา 2 นาที นายพรเพชร ชี้แจงว่า ตนได้นั่งทำหน้าที่ประธานการประชุมมาเกือบ 4 ชั่วโมงและยังต้องนั่งประชุมต่อโดยยังไม่ทราบกำหนดระยะเวลาว่าจะต้องนั่งประชุมไปอีกนานสักเท่าไร ซึ่งขณะนั้น กรรมการนับองค์ประชุมใกล้เสร็จแล้วตนจึงขอพักการประชุม 2 นาทีเพื่อไปทำธุระส่วนตัวเมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จก็รีบกลับมาทันทีไม่เกิน 2 นาที แต่มีสื่อบางสื่อเผยแพร่ข่าวกล่าวหาว่า ตนออกไปรับคำสั่งหรือโทรศัพท์ถึงผู้ใด ขอสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปบูชาและพระสยามเทวาธิราชที่ประดิษฐานประจำสภาแห่งนี้ว่ากิจกรรมของตนที่ไปเข้าห้องน้ำเพียงอย่างเดียวและรีบกลับมาทันที หากทำตามที่ถูกกล่าวหาขอให้ความวิบัติจงมีกับตนตลอดไป สำหรับสื่อที่ลงข่าวทำให้ตนเกิดความเสียหาย ตนไม่ติดใจและไม่ต้องมาขอโทษอะไร แต่ผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงแล้วยังใส่ความบิดเบือนกล่าวหาว่าสิ่งที่ตนทำไปเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะสยามเทวาธิราชของอาคารรัฐสภาแห่งนี้คงจะได้ตอบสนองความทุกข์ยากให้แก่ผู้ที่พูดไม่จริงบนแผ่นดินของรัฐสภา
ขณะที่ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานของประธานรัฐสภา แถลงข่าวขั้นตอนการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เปิดเผยว่า กฎหมายนี้เริ่มพิจารณาวันที่ 5 ก.ค.2565 โดยพิจารณาทีละมาตราจนถึงมาตราที่ 23 ที่มีการแก้ไขตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย คือเปลี่ยนสูตรหารบัญชีรายชื่อจากหาร 100 มาเป็นหาร 500 จึงทำให้ต้องมีการนำกลับไปแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกัน ดังนั้นในวันที่ 4 ส.ค.2565 ประธานรัฐสภาจึงได้เชิญวิป 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และวุฒิสภา มาประชุมร่วมกันว่าวางกรอบจะพิจารณาอย่างไร จึงเสนอวันพิจารณาในวันที่ 9-10 ส.ค. แต่เนื่องจาก ส.ว.ให้เหตุผลว่าวันที่ 9 ส.ค.มีการประชุมกฎหมายสำคัญ จึงขอให้งดการประชุมรัฐสภา จึงเหลือการพิจารณาเพียงวันเดียวคือ 10 ส.ค.
นายอิสระ กล่าวอีกว่า คืนวันที่ 9 ส.ค.ก่อนที่จะมีการประชุมมีกระแสข่าวว่าองค์ประชุมจะไม่ครบ และจะไม่สามารถดำเนินการประชุมได้ ประธานรัฐสภามีความกังวลใจในเรื่องนี้และไม่อยากให้สภาถูกครหาว่าไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ จึงได้ยกหูโทรศัพท์โทรหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วยตนเอง เพื่อขอให้มาร่วมประชุมในวันที่ 10 ส.ค.2565 เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ คือ ร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... เหลือพิจารณา 4 มาตรา จึงเป็นที่มาที่ทำให้องค์ประชุมครบจนดำเนินการประชุมและผ่านกฎหมายไปได้ ขอชื่นชมสมาชิกรัฐสภาทุกท่านที่ร่วมกันดำเนินการประชุมอย่างต่อเนื่อง จนเข้าสู่วาระการประชุม ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จนองค์ประชุมไม่ครบเมื่อวานเย็น
นายอิสระ กล่าวย้ำว่า ในนามของประธานรัฐสภาที่พูดมาตลอดว่า รัฐสภาไม่สามารถรับใช้ใคร ยกเว้นเพียงแต่รับใช้สภาและรับใช้พี่น้องประชาชน ประธานรัฐสภาจึงมีดำริกำหนดให้ประชุมร่วมกันรัฐสภาอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 15 ส.ค.2565 เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่ารัฐสภาภายใต้การนำของประธานรัฐสภา พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะพิจารณากฎหมายให้แล้วเสร็จ ในส่วนขององค์ประชุมนั้นก็ให้เป็นเรื่องขององค์ประชุม หากองค์ประชุมไม่ครบ สมาชิกรัฐสภาที่ไม่มาเข้าร่วมประชุม ก็ต้องตอบคำถามและแสดงความรับผิดชอบกับการกระทำนั้น ประธานรัฐสภาต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในฐานะผู้ที่จะต้องดำเนินการพิจารณากฎหมาย ในฐานะตัวแทนของประชาชน ในฐานะตัวแทนของฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นสามเสาหลักของประชาธิปไตย
ดังนั้น ในวันที่ 15 ส.ค.จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยจะออกหนังสือเชิญประชุมในวันนี้ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ซึ่งการออกหนังสือเชิญต้องออกล่วงหน้าสามวันไม่รวมวันศุกร์ ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันสุดท้ายในการออกหนังสือเชิญประชุม ซึ่งจะออกหนังสือเชิญประชุมในบ่ายของวันนี้ หลังจากที่ได้หารือกับวิป 3 ฝ่ายเวลา 12.30 น. เพื่อกำหนดกรอบการประชุมและขอให้ทุกคนมาร่วมประชุมเพื่อให้ประชาชนเห็นว่ารัฐสภาดำเนินการอย่างยิ่งยวดแล้วที่จะทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านไปได้