พรรคร่วมฝ่ายค้านนัดสัปดาห์หน้า สรุปผลซักฟอก - คัดประเด็นยื่น ป.ป.ช.สอบรัฐมนตรี ด้านโฆษกรัฐบาล ประณาม ส.ส.ก้าวไกล แต่งชุดดำ วางดอกไม้จันทน์ในสภา ขาดวุฒิภาวะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านระบุหลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการยื่นตรวจสอบรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่า ตามข้อกล่าวหาที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายรัฐมนตรีทั้ง 11 คน สามารถยื่นตรวจสอบต่อเนื่องได้เกือบทุกคน ในประเด็นละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ประเด็นที่สองคือเรื่องมาตรฐานจริยธรรมที่จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ประเด็นที่สามคือกระทำผิดกฎหมายจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามารัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และประเด็นที่สี่คือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่อทุจริตหรือเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง คือ ประเด็นหลักที่จะยื่นต่อ ป.ป.ช.
นพ.ชลน่าน ระบุว่า ส่วนจะยื่นตรวจสอบใครบ้าง คงต้องนำคำอภิปรายของแต่ละพรรคมาหารือกันอีกครั้ง ประเด็นไหน พรรคใดเป็นเจ้าภาพก็คงให้พรรคนั้นยื่นร่วมกัน แต่ถ้าประเด็นไหนอภิปรายร่วมกันทั้งหมดก็จะยื่นในนามพรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกัน และจะปรึกษาหารือร่วมกันหรือไม่ หรือให้พรรคใดเป็นเจ้าภาพ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาเขียนคำร้อง เพราะยื่นไปแล้วต้องเป็นประเด็นที่สังคมได้ประโยชน์
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คุยรายละเอียดว่าจะยื่นตรวจสอบใครบ้าง ในประเด็นอะไรบ้าง แต่ยืนยันว่า มีการยื่นตรวจสอบต่อเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ในรายละเอียดสัปดาห์หน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการหารือถึงความขัดเจนในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
โฆษกรัฐบาลประณาม ส.ส.ก้าวไกล วางดอกไม้จันทน์ในสภา
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน อ้างถึงผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎรไม่สอดคล้องกับผลโหวตนอกสภาถึง 98.3% ว่า พรรคฝ่ายค้านอาจจะรู้สึกเสียทรงที่ผลการลงมติของ ส.ส.ทั้งสภาให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกท่านมากกว่า แม้จะได้งัดข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ มาอภิปรายอย่างเต็มที่แล้ว แต่เห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเก่าที่กล่าวอ้างแบบเลื่อนลอย บางเรื่องบิดเบือนและมโนเอาเอง
แต่สิ่งสำคัญที่สุดเป็นเพราะรัฐมนตรีทุกท่านสามารถชี้แจงอธิบายข้อเท็จจริงให้สภาและสังคมเข้าใจได้ จึงพยายามยกผลโหวตนอกสภามาสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง และอ้างว่าเป็นเสียงของประชาชน ทั้ง ๆ ที่สังคมรู้กันอยู่แล้วว่าคนกลุ่มนี้อาจมีความเชื่อมโยงกับพรรคฝ่ายค้าน หรือหากเป็นการจัดกิจกรรมที่บริสุทธิ์ใจจริงก็แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในความสามารถของฝ่ายค้านว่าจะล้มรัฐบาลได้
เช่นเดียวกับกรณีที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุถึงผลโหวตนอกสภาว่าประชาชนลงมติไม่อยากให้รัฐบาลนี้ทำหน้าที่ต่อไปแล้วนั้น เห็นได้ชัดว่าพรรคเพื่อไทยหวังพึ่งพาเสียงโหวตนอกสภาอย่างผิดสังเกต แต่ลืมไปว่ายังมีประชาชนอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่ได้ร่วมโหวตในครั้งนี้ด้วย ดังนั้นผลการโหวตดังกล่าวจึงไม่สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
“เราจึงเห็น ส.ส.ฝ่ายค้าน แสดงอาการอยู่ไม่เป็นสุข ต้องรีบออกมาชี้แจงแก้ตัวกันพัลวันว่าได้คาดการณ์ผลไว้อยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากช่วงก่อนและระหว่างการอภิปรายที่ดูดุดัน ขึงขัง และก้าวร้าวแบบหน้ามือเป็นหลังมือ รวมถึงการแต่งชุดดำวางดอกไม้จันทน์บริเวณที่นั่งนายกรัฐมนตรีของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาด ขาดวุฒิภาวะ และน่าประณามอย่างยิ่ง เพราะสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติและศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ยังทำเพียงเพราะไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ" นายธนกร กล่าว