'ศักดิ์สยาม-อนุทิน' ร่วมแถลงข่าวโชว์สเตทเม้นท์เงินค่าโอนหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ หลังฝ่ายค้านอภิปรายอ้างหนังสือไม่มีหัวธนาคาร ไม่น่าเชื่อถือ เผยจ่ายก่อนทำสัญญาเป็นเรื่องปกติ ยันเกิด 2 ปี ก่อนการเลือกตั้ง 62 อาจใช้สิทธิตามกฎหมายหากเกินเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 กรณีสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน ตามที่ ส.ส.ฝ่ายค้านเสนอ ภายใต้ยุทธการณ์ ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค.2565 ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการอภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.30 น.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ได้อภิปรายสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีการโอนหุ้น หจก.บุรีเจริญของนายศักดิ์สยามที่ไม่มีหัวหนังสือธนาคารในการโอนจึงไม่เชื่อว่ามีการโอนหุ้นจริง ว่า วันนี้ได้นำสเตทเม้นท์การโอนเงินที่มีชื่อหัวธนาคารชัดเจน 3 ฉบับ ในการโอน 3 ครั้ง ซึ่งฉบับแรกได้มีการโอนเดือน ส.ค.2560 จำนวน 35 ล้านบาท ฉบับที่สองเดือนก.ย.2560 จำนวน 35 ล้านบาท และฉบับที่สาม เดือน ม.ค.2561 จำนวนเงิน 40 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 119,500,000 บาท
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงมีการโอนเงินก่อนที่จะมีการทำสัญญาซื้อขายโอนหุ้นนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ความจริงแล้วการซื้อขายหุ้นไม่จำเป็นว่าจะต้องชำระเงินและโอนเงินทันที เพราะมีสัญญาอยู่ พร้อมย้ำว่า มีการซื้อขายโอนหุ้นจริง ไม่มีนอมินี ซึ่งบุคคลที่ถูกพาดพิงได้ออกมาชี้แจงแล้ว และตนกับบุคคลดังกล่าวก็เป็นเพื่อนกัน การซื้อขายหุ้นมีการพูดคุยกันไว้ก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งยอมรับว่าเมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ตนเป็นนักการเมืองจึงต้องเคลียร์คุณสมบัติเหล่านี้ให้หมด และได้ดำเนินการไปก่อน
นายศักดิ์สยาม กล่าวยืนยันว่า ไม่มีใครทราบว่าจะเลือกตั้งเมื่อใด และไม่รู้ว่าจะได้รับการเลือกตั้งจนได้รับตำแหน่งในการบริหารพรรครัฐบาลหรือไม่ พร้อมย้ำว่า เรื่องการโอนหุ้นเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งปี 2562 มาก่อน 2 ปี เพราะฉะนั้นตนไม่ได้เป็นนอสตราดามุดตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา ส่วนที่ลูกจ้างคนดังกล่าวเข้าไปเป็นลูกจ้างในบริษัทศิลาชัย ที่มีความเชื่อมโยงกับตระกูลของตนเองนั้นจากที่คุยทราบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นคนมีฐานะแต่อยากได้สิทธิประกันสังคม ซึ่งเคยเป็นพนักงานในอีกบริษัทหนึ่ง แต่บริษัทนั้นปิดตัวไปจึงนำชื่อเข้ามาบริษัทศิลาชัย เพราะบางทีคนมีเงินมักจะขี้เหนียว จึงเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่ได้เกี่ยวกับตนแต่อย่างใด
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลักฐานเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนรับตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตนเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2562 เช่นเดียวกันกับนายสุทินจึงตั้งคำถามว่าเราแจ้งบัญชีทรัพย์สินกันอย่างไร เพราะแจ้ง ณ วันที่เข้ารับตำแหน่ง ไม่เกิน 30 วัน การจะนำข้อมูลเมื่อ 30 ปีก่อนมาแสดงไม่มีใครทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชี้แจงได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจตนมองว่าเป็นเรื่องการกล่าวหา และอะไรเกินกว่ากฎหมายบัญญัติไว้ ตนก็ต้องใช้สิทธิ ต้องรอดูผลอภิปรายและการลงมติ หากเรียบร้อยก็ถือว่าไม่มีอะไร เพราะถือว่าได้รับการพิสูจน์จากการลงมติ ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าผลการลงมติจะเป็นอย่างไรจึงขอรอดูผลในวันที่ 23 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม ได้ลงมาแถลงข่าวพร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.พรรคภูมิใจไทย จำนวนหนึ่ง ร่วมในการแถลงข่าวด้วย