สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 6 แถลงอสส.สั่งฟ้องแล้ว อดีตนายก อบต.บ้านนา หลังป.ป.ช.ชี้มูลคดีเรียกรับเงินหัวละ 1- 4 หมื่น แลกต่อสัญญาจ้างพนักงานทั่วไป 17 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายวิวัฒน์ เจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 ในฐานะโฆษกสํานักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 แถลงข่าวผลการดําเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต โดยเปิดเผยว่า ปัจจุบันอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องในเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่สํานักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ดําเนินการไต่สวน จํานวน 1 เรื่อง โดยเป็นการกล่าวหา นายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหาร ส่วนตําบลบ้านนา จ.พิจิตร กับพวก เรียกรับทรัพย์สินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการต่อสัญญาจ้าง บังคับให้บุคคลอื่นลงชื่อใน หลักฐานการขอลาออกเพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ ประจําปี งบประมาณ 2555 (เรียกรับเงินโบนัส)
จากกรณีการทุจริตดังกล่าว พบพฤติการณ์ในการกระทําความผิด ดังนี้
นายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ ได้ใช้หน้าที่และอํานาจต่างกรรมต่างวาระเรียกและรับเงิน จากพนักงานจ้างทั่วไปและพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านนา แล้วแต่กรณี จํานวน 17 ราย ๆ ละ 10,000 - 40,000 บาท แล้วแต่กรณี เพื่อแลกเปลี่ยนกับการต่อสัญญาจ้าง นอกจากนี้ ยังได้ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่างกรรมต่างวาระโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด โดยได้ทําการไม่ต่อ สัญญาจ้างให้แก่พนักงานจ้างทั่วไปและพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านนา จํานวน 4 ราย และยังได้ใช้หน้าที่และอํานาจโดยมิชอบบังคับให้พนักงานจ้างทั่วไปและพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์การ บริหารส่วนตําบลบ้านนาที่สัญญาจ้างครบกําหนดระยะเวลาการจ้าง ในวันที่ 30 กันยายน 2555 ซึ่งไม่ได้รับการ ต่อสัญญาจ้าง ลงลายมือชื่อในหนังสือขอลาออกของพนักงานจ้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับเงินประโยขน์ตอบ แทนอื่นเป็นกรณีพิเศษประจําปีงบประมาณ (เงินโบนัส) และเมื่อไต้หนังสือขอลาออกของพนักงานจ้างมาแล้ว ได้น้าไปดําเนินการปลอมแปลงเพื่อนําเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้ การกระทําของนายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 264 วรรคสอง ประกอบมาตรา 91และมีมูลความผิด ฐานกระทําการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือ ปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตําบลและองค์การบริหารส่วนตําบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ปัจจุบันอัยการสูงสุดได้พิจารณาเห็นชอบให้ดําเนินคดีอาญาฟ้องนายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ และสํานักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ได้แจ้งให้นายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 แล้ว