‘นพ.จเด็จ’ แจงปม สปสช.ประกาศยกเลิกจ่ายค่าตรวจโควิด มีผลเฉพาะกรณีที่ไม่มีอาการ แต่ไปขอตรวจ ATK ที่ รพ.นอกระบบบัตรทอง ย้ำผู้ป่วยโควิด ยังรักษาฟรีตามสิทธิ์ทุกกรณี เตรียมเสนอใช้เงินกองทุน 1.4 แสนล้าน แทนเงินกู้รองรับสถานการณ์ 3 เดือนก่อนสิ้นปีงบ 65
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวชี้แจงกรณีราชกิจจาเผยแพร่ประกาศ สปสช. เรื่องการยกเลิกการจ่ายค่าตรวจโควิด ที่โรงพยาบาลนอกระบบัตรทอง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 เป็นต้นไป
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิดทุกราย ยังคงได้รับการรักษาฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามสิทธิ์ที่มีอยู่ ส่วนที่มีปัญหาความเข้าใจผิดจากประกาศฉบับดังกล่าว เป็นการยกเลิกบริการคัดกรอง การตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการตามสถานบริการที่อยู่นอกระบบบัตรทอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบ
“ตั้งแต่ 1 ก.ค. เราไม่แนะนำให้ท่านไป รพ.เอกชนที่อยู่นอกระบบ โดยประกาศฉบับนี้บอกว่า สปสช.จะไม่ไปตามจ่ายค่าตรวจ ATK กรณีที่ท่านไม่มีอาการแล้วไปเข้ารับการตรวจที่ รพ.เอกชนนอกระบบ” นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สปสช.สัปดาห์หน้า ตนจะเสนอให้ สปสช.พิจารณาขอใช้เงินกองทุนปี 2565 วงเงิน 140,550.19 ล้านบาท แทนการใช้วงเงินกู้ในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด จากเดิมที่ใช้เงินกู้ตั้งแต่ปี 2563 ถึง ปัจจุบัน รวมกว่า 130,205.31 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอในการดูแลประชาชนในช่วง 3 เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณนี้
“หากท่านสงสัยว่าตัวเองเสี่ยงเป็นโควิดหรือไม่ แนะนำให้เข้ารับการตรวจที่หน่วยบริการในระบบทุกแห่ง ซึ่งมีทั้ง รพ.รัฐ , รพ.ชุมชน , รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือใน กทม.ก็มีคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข หรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมให้โทรสอบถามที่สายด่วน 1330 หรือติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ @nsho โดยยืนยันว่า ไม่เสียค่าใช้จ่าย” นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสที่บอกว่าจะมีการยกเลิกการสนับสนุน Home Isolation หรือ การกักตัวที่บ้านนั้น ก่อนหน้านี้มีการหารือเรื่องนี้จริง แต่ยังมีประชาชนบางส่วนประสงค์ที่จะใช้บริการดังกล่าวอยู่ ในการประชุมคณะกรรมการ สปสช.ครั้งหน้า ก็จะเสนอให้มีเตรียมงบประมาณไว้รองรับเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้มีการยกเลิกบริการดังกล่าว ส่วนปัญหาเรื่องการจ่ายยาในการรักษาโควิด ที่บางคนได้รับยาปกติเหมือนการรักษาโรคทั่วไปนั้น ขอย้ำว่า แพทย์จะพิจารณาตามมาตรฐานที่กรมการแพทย์กำหนด ซึ่งมีการปรับปรุงมาตรฐานการรักษาอยู่ตลอดเวลา ขอให้มั่นใจว่า แพทย์ที่เป็นผู้สั่งการรักษา จะทำหน้าที่ตามหลักการแพทย์หรือมาตรฐานที่ผู้เชี่ยวชาญกำหนดมาแล้ว
พญ.กฤติยา ศรีประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สายงานบริหารกองทุน สปสช. กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เรียกประชุมหน่วยบริการในระบบ สปสช.ผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจว่า สปสช.ยังสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโควิดตามเดิม เพื่อให้โรงพยาบาลทุกแห่งสบายใจว่า งบประมาณจาก สปสช.จะสามารถเรียกเก็บตามบริบทการรักษาได้
พญ.กฤติยา กล่าวย้ำว่า ผู้ป่วยโควิดจะได้รับการดูแลโดยกองทุนต่างๆ ประชาชนต้องไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น สิทธิ์บัตรทอง หากเจ็บป่วยหรือสงสัยว่ามีอาการ ขอให้เข้ารับการตรวจจคัดกรองเบื้องต้นที่หน่วยบริการของเรา หรือขอชุดตรวจ ATK จากร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการกับ สปสช. และถ้าพบว่าตัวเองติดโควิดก็เข้ารักษาตามหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช.ได้ทันที โดยไม่เสียเงิน
“ยกตัวอย่างถ้าชื่อเราอยู่ในระบบที่เชียงใหม่ แต่เรามาทำงาน กทม. และป่วยโควิด ก็สามารถรับบริการที่มีทั้ง รพ.รัฐ และ รพ.เอกชนที่เป็นหน่วยของ สปสช.ได้ ซึ่ง รพ.เหล่านั้นก็จะนำค่าใช้จ่ายมาเบิกกับ สปสช. ดังนั้นขอยืนยันว่าระบบยังเหมือนเดิมทุกอย่าง หรือถ้าใครไม่สะดวกที่จะรักษาในโรงพยาบาล เราก็ยังมีโครงการเจอ แจก จบ ที่สามารถติดต่อขอรับยากับร้านขายยา 600 ร้านที่เข้าร่วมโครงการได้เช่นเดิม” พญ.กฤติยา กล่าว