‘ยุทธพงศ์’ โหมโรงศึกซักฟอก แง้ม ‘บิ๊กตู่’ โดนหนักสุด พร้อมฉายหนังตัวอย่างสัญญาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท แต่ก่อสร้างล่าช้า หวั่นบ้านเมืองเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2565 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 15 ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุญัตติเป็นเรียบร้อยแล้ว มีรัฐมนตรีที่จะโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งหมด 11 คน และผู้ที่จะโดนหนักที่สุด คือ หัวหน้ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งที่ผ่านมาการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ลงนามในการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 อายุสัมปทาน 35 ปี ลงนามไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2564 จะเปิดใช้งานปี 2568 ทำให้กวาดรายได้กว่า 4 พันล้านบาท รองรับการขนถ่ายตู้สินค้าเพิ่มอีก 2 ล้าน ที.อี.ยู. พร้อมกับดันขนส่งตู้สินค้าผ่านทางรถไฟอีก 30% โดยเป็นโครงการใหญ่มหาโปรเจ็คของ พล.อ.ประยุทธ์
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างใช้เงินลงทุนทั้งหมด 21,320 ล้านบาท เป็นการลงนามกิจการร่วมค้าและเริ่มทำสัญญาตั้งแต่ 3 ก.ย.2563 ในสัญญากำหนดระยะเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จ 1,460 วันหรือ 4 ปี แต่ขณะนี้สร้างมา 2 ปี แต่ท่าเรือยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง มองว่าบ้านเมืองเสียหาย เสียโอกาส โดยตนได้ถามในกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณฯกับปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งยังตอบคำถามไม่ได้ว่าเบิกจ่ายไปเท่าไรแล้ว
“ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมตอบชี้แจงในสภาฯว่า การบริหารแบบนี้บ้านเมืองเสียหายแล้วมาบอกว่า พร้อมตอบ ผมขอให้เตรียมตอบประเด็นนี้เลย ทำหน้าที่บริหารอย่างไรโครงการยักษ์ใหญ่แบบนี้จะได้เปิดใช้งานในปี 2568 หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการถมดินหรือถมทะเลหลังจากนี้ผมจะไปแฉต่อในสภาฯว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไร” นายยุทธพงศ์ กล่าว