กรมควบคุมโรค ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เกาะติดสถานการณ์ ‘ฝีดาษลิง’ พร้อมคุมเข้ม คัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันควบคุมโรค โดยเฉพาะดรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรณีโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เพื่อติดตามสถานการณ์โรค พร้อมจัดทำแผนระยะยาว ระยะกลาง ในการปรับปรุงกลยุทธ์และมาตรการให้เหมาะสม
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงการณ์ยืนยันว่า พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงแล้วประมาณ 80 ราย และมีผู้ป่วยอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 50 ราย ใน 11 ประเทศ ทั้งนี้มีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในหลายประเทศ โดยผู้ป่วยรายแรกที่พบในการระบาดครั้งนี้พบในประเทศสหราชอาณาจักรอังกฤษที่มีประวัติเดินทางไปยังประเทศไนจีเรียช่วงปลายเดือน เม.ย. ทางประเทศสหราชอาณาจักรอังกฤษ จึงเริ่มดำเนินการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม
ขณะนี้พบผู้ป่วย กว่า 100 รายแล้วจาก 15 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักรอังกฤษ สเปน โปรตุเกส อิตาลี เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมันนี สวีเดน สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และกรีซ
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง อย่างไรก็ตามในระยะนี้ เป็นช่วงที่เริ่มเปิดให้มีการเดินทางเข้าประเทศได้มากขึ้น และเป็นช่วงเตรียมการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นของโรคโควิด-19 อาจมีความเสี่ยงจากผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด จากข้อมูลกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค กรมควบคุมโรค ได้รายงานว่า จำนวนผู้เดินทางที่ลงทะเบียนจากประเทศเสี่ยงสูง ได้แก่ สหราชอาณาจักร สเปน โปรตุเกส ระหว่างวันที่ 1-22 พ.ค.2565 มีผู้เดินทางจากสหราชอาณาจักร จำนวน 13,142 คน สเปน 1,352 คน และโปรตุเกส 268 คน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้ยกระดับเพื่อเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางจากประเทศเสี่ยง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และหากต้องเดินทางไปยังประเทศที่พบผู้ป่วยฝีดาษลิงมีข้อพึงระวัง 3 ข้อ ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์พาหะ ได้แก่ สัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก และสัตว์ตระกูลไพรเมต เช่น ลิง ถึงแม้ว่ายังไม่มีรายงานพบเชื้อในสัตว์เหล่านี้ในประเทศไทยก็ตาม หากมีการสัมผัสสัตว์ให้รีบล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด และหลังจากเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรคฝีดาษลิง ให้สังเกตอาการ หากพบมีความผิดปกติ เช่น มีไข้ มีตุ่มผื่นที่ใบหน้า แขน และขา ให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง
2.ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention (UP) โดยการหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิดไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก กินอาหารปรุงสุก เป็นต้น
3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง บาดแผล เลือดน้ำเหลืองของสัตว์ หรือกินเนื้อสัตว์ติดเชื้อที่ปรุงไม่สุก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ละอองฝอย หรือน้ำเหลืองจากผู้ที่สงสัยป่วยหรือมีประวัติเสี่ยง
ทั้งนี้ การแพร่เชื้อจากคนสู่คนมีโอกาสน้อย แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่ง จากทางเดินหายใจ หรือผิวหนังที่เป็นตุ่ม ซึ่งทางกรมควบคุมโรคจะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 5903839 หรือ 1422