พรรคเพื่อไทย ปล่อยคลิปความยาว 18 นาที เล่าเหตุการณ์ครบรอบ 8 ปีรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 นาที 'ประยุทธ์' เข้ายึดอำนาจรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์'
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2565 พรรคเพื่อไทย เผยแพร่คลิปวิดีโอ ‘เสี้ยววินาทีปลายกระบอกปืนจ่อหัวประชาชน รัฐประหาร 57’ ความยาว 18 นาที เล่าเหตุการณ์นาทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นผู้บอกเล่าเหตุการณ์ในแต่ละช่วงเวลา
ผู้ที่เข้าร่วมเล่าเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอนี้ ประกอบด้วย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนั้นดำรง รมว.ยุติธรรม และเป็นผู้ที่อยู่ในห้องเจรจา และเป็นผู้กล่าวยืนยันว่าจะไม่ลาออก นายภูมิธรรม เวชยชัย กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พรรคเพื่อไทยระบุว่า คลิปวิดีโอนี้ แกนนำเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกถึงความพยายามปกป้องประชาธิปไตย ขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับผู้นำกองทัพและกำลังทหารที่พร้อมไปด้วยอาวุธสงคราม ในวันที่ 22 พ.ค.2557 ต่อมาได้ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยแต่ละคนถูกจับกุมคุมขังและจำกัดเสรีภาพ รวมไปถึงการเปิดเผยถึงการกดดันและการต่อรองในการจัดให้มีการเลือกตั้ง และยังเล่าย้อนถึงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่เป็นต้นสายปลายเหตุของการรัฐประหาร แม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นจะตัดสินใจประกาศยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน แต่การชุมนุมก็ยังไม่ยุติ และต่อมาได้ทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายทำให้เกิดการทำลายประชาธิปไตยครั้งใหญ่
พรรคเพื่อไทยระบุอีกว่า นอกจากนั้นยังมีการถอดบทเรียน การเดินหน้าเสนอ พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ในครั้งนั้น โดยนายภูมิธรรมในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมบุกเบิกก่อตั้งพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า “ผมอยู่กับพรรคไทยรักไทยมาตั้งแต่ต้น เชื่อว่าพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย เป็นสถาบันทางการเมืองที่รวบรวมคนที่มีความตั้งใจดี อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และคนเหล่านี้ได้ทุ่มเท อุทิศชีวิตตัวเองเข้ากับระบบการเมืองของประเทศ แต่ภายใต้ระบบการเมืองและการรัฐประหาร ได้ทำลายชีวิต บางคนต้องตาย ติดคุกติดตาราง และหลายคนต้องระเห็จระเหเร่ร่อน ไม่เฉพาะผู้นำพรรคเท่านั้นที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศ
“ผมคิดว่าอันนี้เป็นปัญหาที่สะท้อนให้เห็นว่าการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของคนมีอำนาจกลุ่มหนึ่ง ได้ทำลายโอกาสของประชาชนและโอกาสพรรคการเมือง ซึ่งมันเป็นหัวใจของการบริหารจัดการทรัพยากรในสังคมให้เกิดความยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียมที่สุด ที่นี่ไม่ได้มีความถูกต้องเหมาะสม 100 เปอร์เซ็นต์ ที่นี่ก็เป็นองค์กรที่เหมือนกับองค์กรอื่นๆ ในสังคมไทย ซึ่งมีทั้งสิ่งที่เป็นองค์ประกอบที่ถูกต้องบ้าง ผิดพลาดบ้าง แต่ทิศทางหลักที่เราเดิน เราเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และเรายังอยากทำสิ่งนั้นให้มันเกิดขึ้น ความฝันของเรา 2 เรื่องใหญ่ ซึ่งรวมศูนย์อยู่ที่ประชาชนคือ ประชาธิปไตย กับ ความยุติธรรม”