2 ผู้ใหญ่บ้าน ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง โต้คำชี้แจงอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ปมขนย้ายกองทรายของกลางคดีเก่าทำไมคนในพื้นที่ไม่เคยรับทราบ ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่กระทบวิถีชุมชน ควรต้องทำประชาคม ประเมินปริมาณของน่าจะเกิน 9,625 ลบ.ม. ถามกลับเจ้าของที่ดินเอาของไปไว้คนเดียวกับที่โดนศาลตัดสินหรือไม่
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกกรณีชาวระนองได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสื่อมวลชนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงข้อสงสัยที่หน่วยป้องกันรักษาป่าชายเลน จ.ระนอง ได้ขนย้ายทรายจากพื้นที่ที่มีการจับกุมโดยหน่วยงานความมั่นคงทางทหารเมื่อ ปี 2559 และนำไปกองเป็นพื้นที่กว้างและสูงในพื้นที่ดินเอกชน ซึ่งเป็นที่น.ส.3 ก. ของนายทุนคนหนึ่งในจังหวัดระนองนั้น
- บุกพิสูจน์กองทรายร้อยคันรถ! ชาวบ้านระนองร้อง 'สมศักดิ์' สอบปมลักลอบขุดป่าชายเลน
- แห่ถามข่าวกันให้วุ่น! ปริศนากองทรายระนอง ผอ.กองอนุรักษ์ฯ ข้องใจทำไมขนออกมาไว้ที่นายทุน
ภายหลังจาก นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ทำหนังสือชี้แจงสำนักข่าวอิศรา ยืนยันว่า การขนย้ายกองทรายดังกล่าว เป็นไปตามแผนปลูกป่าชายเลนในพื้นที่แปลงคดีดังกล่าว เนื้อที่ 18 ไร่ เนื่องจากพื้นที่ที่จะดำเนินการปลูกป่าชายเลนเป็นพื้นที่บ่อเลี้ยงกุ้งเดิม มีคันดินทราย ขนาดใหญ่ และมีปริมาณทรายจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องทำการขุดปรับสภาพพื้นที่ให้มีระดับความสูงพื้นที่เท่ากับสภาพดินเลนเดิม เพื่อให้น้ำทะเลท่วมถึงเป็นประจำ อีกทั้งไม่สามารถนำดินทรายที่ขุดปรับถมลงในพื้นที่ป่าชายเลนหรือบริเวณใกล้เคียงได้ เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นลงของน้ำทะเลและมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทำให้พันธุ์ไม้ป่าชายเลนไม่อาจเจริญเติบโตได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการปรับเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสม จึงได้เจรจาให้ทางเอกชนที่ ยื่นคำขอเข้าร่วมกิจกรรมปลูกและบำรุงป่าชายเลนกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งดำเนินการขุดปรับพื้นที่และนำทรายออกไปเก็บไว้บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง และได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรราชกรูด เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 และได้ว่าจ้างให้เจ้าของที่ดินเป็นผู้เฝ้าดูแลรักษากองทรายดังกล่าวไว้จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ โดยคิดค่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท
ขณะที่ดินทรายดังกล่าวซึ่งถือเป็นของกลางในคดีอาญาและได้ตกเป็นของแผ่นดิน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 (เมืองระนอง) อยู่ระหว่างหารือแนวทางในการขายทอดตลาด เพื่อดำเนินให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อกฎหมาย และจะได้ขายทอดตลาดนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม นายมานิตย์ อรุณโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า แม้ว่าอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะออกชี้แจงดังกล่าว ชาวบ้านยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมดังนี้
1. การดำเนินการระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับบริษัทเอกชน ทำไมชาวบ้านเจ้าของพื้นที่ถึงไม่ทราบเรื่อง และเคยสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยป่าชายเลนมาตลอดว่าโครงการมีอะไรที่จะแสดงให้ชาวบ้านได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งในวันที่ ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรราชกรูด ชาวบ้านก็พยายามขอว่าขอรายละเอียดในโครงการฯ แต่ก็ไม่ได้รับรายละเอียดอะไรแต่อย่างใด
2.การกระทำโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ลักษณะนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ทำไมไม่เปิดเผยข้อมูลกับชาวบ้าน เพราะ การขนทรายออกจากพื้นที่บริเวณนี้จำนวนมากเป็นการกระทบต่อวิถีชีวิต เกิดการเปลี่ยนระบบนิเวศน์ทางทะลและชายฝั่งควรจะต้องทำประชาคมในหมู่บ้านก่อนหรือไม่ และหากจะมีวิธีการแบบนี้ทำไมไม่ประกาศให้มีการจัดหาบริษัทอื่น ๆ เพื่อจะได้มีการแข่งขันกันทำความดีแก่ประเทศชาติและแผ่นดินในพื้นที่ ทำไมตกลงทำกันโดยที่ไม่บอกข้อมูลเลยแม้แต่ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่
3. ปริมาณทราบที่อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจงว่ามีแค่ 9,625 ลูกบาศก์เมตร ถูกตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ เพราะจากการประมาณด้วยสายตาน่าจะมีปริมาณมากกว่านี้ ถ้ามีการตรวจสอบและพบว่า มีปริมาณมากกว่าที่แจ้ง จะถือเป็นการดำเนินการที่หลีกเลี่ยงระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
“เรื่องนี้เราคงต้องเดินตรวจสอบกันต่อไป และผมได้รับโทรศัพท์จากผู้มีอำนาจ ตัวแทนประชาชน สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ลงความเห็นตรงกัน ว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ปัญหาที่เกิดในปัจจุบันสำหรับเรื่องนี้คือ การปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับป่าชายเลนเริ่มจะมีปัญหาไม่น่าเชื่อถือ"
นายมานิตย์ ระบุด้วยว่า "การที่อธิบดีออกมาให้ข่าวเป็นเรื่องที่ดี แต่ขอสะท้อนจากพื้นที่ว่า การขนย้ายทรายก็ยังคงดำเนินการอยู่ หากมีการปลูกป่าชายเลนตามคำกล่าวอ้างจริงควรจะใช้หลักวิชาการที่ถูกต้อง หากหน่วยงานระดับกรมของประเทศเรา ไม่มีความน่าเชื่อถือในเรื่องที่ต้องถือว่า เป็นความรู้เฉพาะด้านแล้วชาวบ้านจะไปพึ่งพาเพื่อยังชีพกับใคร วันนี้ตำรวจ ปทส.ลงพื้นที่ เมื่อวานตำรวจ สภ.ราชกรูด ลงพื้นที่ แต่ดูเหมือนคนทั้งสองหน่วยของตำรวจรู้จักคนดำเนินการดี เพราะมีการทักทายกัน ตำรวจทั้งสองแห่งเพียงแต่ถ่ายภาพ หากประชาชนทราบความเคลื่อนทั้งหมด คงหมดความเชื่อถือไปหลายหน่วยงาน เพราะ ขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอยู่”
ขณะที่ นายอรรคพล อรุณโชติ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง กล่าวว่า อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ออกมาพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดี สังคมจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทรัพยากรของแผ่นดินนี้
"แต่ขอแย้งว่า ยังมีความจริงอีกหลายเรื่องที่ไม่ถูกพูดถึง เช่น ไม่พูดว่า ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทางทหารจับกุม ชื่ออะไร หลังจากที่ลงบันทึกประจำวันแล้ว มีการขนทรายเพิ่มอีกกี่เที่ยวกี่ลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ก็ยังขนอยู่ บันทึกประจำวัน ลงวันที่ 15 เมษายน 2565 ตอนนี้วันนี้วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 ปริมาณเพิ่มขึ้นเท่าไร ทำไม ไม่พูด ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม คือคนคนเดี่ยวกันกับที่กองทรายไว้ เนื้อที่ที่บุกรุก 89 ไร่ คดีถึงที่สุดศาลพิพากษาเป็นอย่างไร ผู้ต้องหากับ เจ้าของที่ดินที่วางกองทรายที่ท่านบอกว่า รับจ้าง 5,000 บาท เป็นคนเดียวกันหรือไม่ ศาลรอการลงโทษหรือไม่ เพราะเหตุใด ไม่แน่ใจว่าข้อมูลเหล่านี้ อธิบดีได้รับรายงานแล้วหรือไม่ " นายอรรคพลกล่าว