คดีสินบนโรงไฟฟ้าขนอม! คุก 15 ปี อดีตผอ.เจ้าท่า รองนายกเทศฯ- ผญบ.-ตร.น้ำ โดนคนละ 7 ปี

picwattredsaassddsdssdsd5 3 65

ศาลคดีทุจริตฯ พิพากษาลงโทษหนัก จำคุก 15 ปี อดีตผอ.เจ้าท่าฯ นครศรีธรรมราช คดีสินบนโรงไฟฟ้าขนอม ส่วนพวก 3 ราย รองนายกเทศฯ- ผญบ.-ตร.น้ำ โดนคนละ 7 ปี ร่วมกันชดใช้เงิน 20 ล้านบาท ริบกระเป๋าใส่เงินของกลาง 2 ใบ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษาตัดสินคดีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชน ร่วมกันเรียกรับเงินสินบนจำนวน 20 ล้านบาท จากบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ MHPS เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ใช้ท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อลำเลียงขนถ่ายชิ้นส่วนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยมิชอบ ซึ่งเป็นคดีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจกท์ยื่นฟ้องเอง

ศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสิน ว่า จำเลยทั้ง 4 ราย คือ นาวาโท สาธิต ชินวรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช นายคณิน เมืองด้วง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช นายอภิชาติ สวัสดิรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ท้องเนียน และ พ.ต.ท.สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ มีความผิดฐานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 83

ให้จำคุก นายคณิน เมืองด้วง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช นายอภิชาติ สวัสดิรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ท้องเนียน และ พ.ต.ท.สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ คนละ 7 ปี

นาวาโท สาธิต ชินวรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช จำคุก 15 ปี

นอกจากนี้ ยังให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันชดใช้เงิน 20 ล้านบาท และริบกระเป๋าใส่เงินของกลางจำนวน 2 ใบ

สำหรับคดีนี้ ในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด เจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 4 ราย และเอกชนผู้สนับสนุน 3 ราย ได้แก่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทยฯ และนายราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการบริษัท ซิโน-ไทยฯ ก่อนจะมีการส่งสำนวนไต่สวนคดีให้อัยการสูงสุด พิจารณาสั่งฟ้องคดีต่อศาล แต่ฝ่ายอัยการ เห็รควรสั่งฟ้องเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนรวม 5 ราย แต่ไม่สั่งฟ้องเอกชน 2 รายฐานสนับสนุน ได้แก่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) นายภาคภูมิ ศรีชำนิ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทยฯ

ขณะที่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยนายภาคภูมิ ศรีชำนิ เคยชี้แจงต่อสาธารณะว่า ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ และมั่นใจว่าสามารถชี้แจงแสดงหลักฐานโต้แย้งการถูกกล่าวหาข้างต้นได้ และบริษัทฯขอยืนยันจะสู้จนถึงที่สุด

บ.ซิโน-ไทยฯแจงด่วน ตลท.! หลัง ป.ป.ช. ฟันคดีสินบน-ยันไม่เคยทุจริต จะสู้จนถึงที่สุด

อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2563 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ไม่ฟ้องบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และตัวแทนผู้มีอำนาจรวม 3 ราย ในคดีสินบนโรงไฟฟ้าขนอม เนื่องจากเห็นว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาไม่ตรงตัวบทกฎหมายตั้งแต่ต้น เพราะตามข้อเท็จจริงในสำนวนต้องแจ้งความผิดฐานเป็นผู้ให้สินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 แต่กลับมีการแจ้งข้อกล่าวหาผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ดังนั้นหากส่งฟ้องศาลไป ผู้ถูกกล่าวหาในกลุ่มเอกชนอาจพ้นผิด

โดยในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการหารือกันว่าคดีนี้จะฟ้องเอกชนหรือไม่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 77 ที่บัญญัติว่าหากคณะทำงานร่วมฯหาข้อยุติไม่ได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. สามารถฟ้องคดีได้เองตามอายุความ แต่ต้องไม่ช้ากว่า 90 วันนับแต่วันหาข้อยุติไม่ได้ โดยท้ายที่สุดที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเสียงข้างมากไม่ฟ้องกลุ่มเอกชน ก่อนที่จะมีการหารือกันต่อว่าจะดำเนินการกับกลุ่มเอกชนอย่างไร โดยฝ่ายเสียงข้างน้อยเห็นว่า สามารถดำเนินคดีต่อได้ โดยการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในสำนวนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ส่วนเสียงข้างมากเห็นว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีผลเป็นอันสิ้นสุดไปแล้ว หากจะดำเนินการต่อต้องมีการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนใหม่

แต่ประเด็นคือ คดีนี้ฝ่ายอัยการไม่ได้เป็นคนบอกว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาผิดตัวบทกฎหมาย แต่มีกรรมการ ป.ป.ช. บางรายให้ความเห็นในที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. นั่นจึงนำไปสู่มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ไม่ฟ้องกลุ่มเอกชนต่อศาล