'เจ้าท่าตรัง' ร้อง สภ.ห้วยยอด เร่งตรวจสอบปมนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง ร่วมมือนายตำรวจลักลอบดูดทรายเถื่อนในแม่น้ำตรัง -ในขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าแจ้งความเอาผิดแล้วเช่นกัน ด้านผู้กับฯ สภ. ห้วยยอดระบุ ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด แต่มีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด และอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า ที่ สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ห้วยยอด จ.ตรัง นายศรีอนันต์ พุ่มเกื้อ ตำแหน่งนักวิชาการขนส่งชำนาญการ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. ยศวริศ ทองสงโสม รอง สว.สอบสวน) สภ.ห้วยยอด กรณีที่มีผู้ลักลอบดูดทรายในแม่น้ำตรังจนทรัพย์สินของแผ่นดินได้รับความเสียหาย และทาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรัง ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจมอบไปก่อนหน้านี้ด้วย
โดยจากกรณีเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ตรัง ป่าไม้ตรัง เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ได้เข้าตรวจค้นบ่อทรายเถื่อน พบมีผู้ลักลอบเข้าดูดทรายโดยนำเครื่องจักรกล และเครื่องดูดทรายมาติดตั้งในบริเวณแม่น้ำตรัง ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ลำภูรา อ. ห้วยยอด จ.ตรัง สามารถจับกุมคนขับรถแบคโฮ จำนวน 1 คน ขณะลักลอบดูดทราย
ส่วนข้อมูลเชิงลึกพบว่าบ่อทรายดังกล่าวเป็นของตำรวจนายหนึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอห้วยยอด และนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง และเป็นเจ้าของรถแบคโฮ โดยแหล่งข่าวแจ้งว่าในจังหวัดตรังมีบ่อดูดทรายประมาณ 50 แห่ง เกือบทั้งหมดเป็นบ่อทรายผิดกฎหมาย และเกือบทุกแห่งต้องจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่ม การเรียกเก็บส่วยมีทั้งรายครั้งและรายเดือน ขั้นต่ำเปิดบ่อครั้งแรกต้องจ่าย 10,000 บาท จากนั้นจะมีการเรียกเก็บรายเดือน ๆ ละ 5,000 บาท แต่ละเดือนจะมีเงินส่วยบ่อทรายหลายแสนบาท
เหตุที่ผู้ประกอบธุรกิจเลือกที่จะทำบ่อทรายเถื่อนเพราะขั้นตอนการขออนุญาตยุ่งยากและใช้เวลานาน ใบอนุญาต 1 ใบ ใช้เวลาเดินเรื่องกว่า 1 เดือน จึงทำให้เกิดช่องว่างการเก็บส่วย ทั้งที่ผู้ประกอบการหลายรายต้องการเข้าระบบการทำธุรกิจที่ถูกต้อง จนทำให้ตลิ่งแม่น้ำตรังพังทลาย อาสินของชาวบ้านเสียหายจากกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศทาง ซึ่งมีการเรียกเก็บส่วยมานานเป็น 10 ปี แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อเรื่องเงียบ การดูดทรายและเก็บค่าสวยก็จะวนกลับมาอีก
ซึ่งจากการเข้าแจ้งความในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 ตอนเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ โดยเอาผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ ไว้แล้ว โดยในวันนี้ทางเจ้าท่าภูมิภาคได้เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติม โดยเอาผิดตาม พ.ร.บ.เจ้าท่า ผิดตามพระราชบัญญัติเดินเรือน่านน้ำไทย ตามมาตรา 120 กฎหมายอาญา 172/2565 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
นายศรีอนันต์ กล่าวว่า ได้รับการประสานจาก ป.ป.ช.ตรัง ว่าร่วมกับป่าไม้ได้ดำเนินการจับกุมเรื่องลักลอบการดูดทราย ในหมู่ที่ 8 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 ที่ผ่านมา ซึ่งการดูดทรายในแม่น้ำตรัง ผิดตาม พ.ร.บ.เดินเรือน่านน้ำไทย ตามมาตรา 120 ซึ่งดูดทรายในแม่น้ำตรังโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่า จึงได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม ตามที่ได้แจ้งความร้องทุกข์กับกรมป่าไม้ในเรื่องการดูดทรายในแม่น้ำตรัง ซึ่งในเบื้องต้นตอนนี้ยังไม่ทราบผู้กระทำผิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สอบสวนจะดำเนินการหาผู้กระทำผิดต่อไป โดยทางเจ้าท่าเองมีแผนออกตรวจเป็นระยะ ๆ หากพบเจอการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายทุกกรณี
ทางด้าน พ.ต.อ. สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.ห้วยยอด ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แต่ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ได้รับการประสานก็นำกำลังลงพื้นที่ สามารถตรวจยึดของกลาง 5 รายการ เป็นรถแบคโฮ 1 คัน ตะแกรงดูดทราย ท่อดูดทราย ทุ่น ท่อลำเลียง ซึ่งของกลางทั้งหมดยังอยู่ที่เกิดเหตุยังไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน โดยมีการอ้างว่าไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทั้งนี้ของกลางทั้งหมดป่าไม้เป็นคนตรวจยึดต้องอยู่ในความดูแลของป่าไม้ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนความคืบหน้าติดตามผู้กระทำความผิด ขณะนี้ยังไม่ทราบผู้กระทำความผิด แต่มีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด และอยู่ในระหว่างการดำเนินการ เชื่อว่าจะสามารถเอาคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างแน่นอน