ศบค.ขอความร่วมมืองดสาดน้ำ มติที่ประชุมไม่อนุมัติปรับมาตรการเข้าประเทศ ยกเลิก RT-PCR รอประเมินหลังสงกรานต์-เคาะจัดหาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ฉีดกลุ่มเสี่ยง ภูมิคุ้มกันต่ำ ขณะที่เตรียม ATK ไว้แจกกว่า 22 ล้านชิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด- 19 (ศบค.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ที่ประชุม เน้นดูยอดตัวเลขกลุ่มผู้ป่วย ปอดอักเสบที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ สรุปคือ ตอนนี้เรายังอยู่ในช่วงการต่อสู้การติดเชื้อของโควิดแบ่งเป็นระยะ โดยเราอยู่ในช่องสีแดง คือ Combatting โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พูดถึงว่าเราต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลาเหล่านี้ เพื่อให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตแม้แต่ 1 ชีวิตก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกส่วน เราถึงจะผ่านไประยะที่ 2 คือ หลังสงกรานต์ หากตัวเลขไม่สูงขึ้นมาก ระยะ 2 หรือระยะ 3 ซึ่งเป็นระยะลดลงจะเกิดเร็ว แต่หากสูงขึ้นมาก อัตราการลดลงจะช้าลง
"ท่านนายกฯ ขอให้เพิ่มคู่สาย 1330 เพื่อให้เข้าถึงการบริการโดยเร็ว และขอบคุณทีมงานทั้งหลายที่ไปดูแลผู้สูงอายุ และท่านยังห่วงเด็กเรื่องเปิดเทอม และเด็กก็ป่วยเยอะ จึงขอให้รับวัคซีนด้วย" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องเร่งการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ เข็ม 3 ต้องเร่งฉีดกันในกลุ่มผู้สูงอายุ ต้องช่วยกัน และขอให้กลุ่มผู้สูงอายุ มาฉีดเข็ม 3 รวมไปถึงกลุ่มเด็กด้วย ส่วนเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ ให้เล่นน้ำแบบ 'ริน รด พรม' แทนการสาดน้ำ ซึ่งต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนด้วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เสนอเรื่องการให้มีการตรวจ ATK ด้วยตนเองในกลุ่มเสี่ยง โดยกระจายชุดตรวจ ATK ตั้งแต่ มี.ค. - ก.ย. 2565 เตรียมไว้ 22.8 ล้านชิ้น ช่วงที่ผ่านมาใช้ไป 3.1 ล้านชิ้น รวม 1.2 ล้านคน พบผลบวก 2.3% ใช้ต้นทุนต่อชุดประมาณ 55 บาท ตอนนี้งบประมาณที่ขออนุมัติไปแล้ว คือ 170 ล้านบาท ที่ประชุมรับทราบ
"สิ่งที่น่าชื่นชมคือมีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยศิริราชพยาบาลให้ทางภาคเอกชนเข้ามาร่วมกันทำให้เกิด ATK ไทยขึ้นมา ราคาประมาณ 40 บาทต่อชิ้น ผลิตได้ 2 แสนชิ้นต่อเดือย นายกฯ ก็ชื่นชม และบอกว่าถ้าเป้าหมายเราใช้เป็นล้านชิ้นต่อเดือน เป็นไปได้หรือไม่ให้เพิ่มตัวนี้ขึ้นมาถึง 1 ล้านชิ้น ซึ่ง รมว.สธ.ระบุว่าพอเป็นไปได้ อาจจะต้องร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่มีการนำเข้ามาด้วยราคาอยู่ที่ 35 บาทต่อชิ้น ทำให้ราคาถูกลง"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยวและกีฬา (ศปก.กก.) รายงานความคืบหน้าช่วงเวลาที่เราเปลี่ยนแปลง Test&Go ไม่ต้องทำ RT-PCR ก่อนเดินทาง พบว่า ปี 2564 ตลอดทั้งปี มีคนเดินทางเข้ามามากในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 2564 ซึ่งมีนโยบายผ่อนปรนให้เข้ามาแบบ Test&Go ทำให้ยอดกระฉูด แต่ทั้งปีเข้ามาเพียง 4.2 แสนคน ส่วนช่วง ม.ค. - มี.ค. 2565 มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 4.7 แสนคน มากกว่าปีที่แล้ว แสดงถึงการเป็นผู้นำในการที่จะนำทิศทางที่จะเปิดประเทศ มีการศึกษาและผ่านกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ส่วนตอนนี้ที่ปรับว่าไม่ต้องทำ RT-PCR โดยให้มาตรวจในไทยเมื่อเดินทางมาถึง และตรวจ ATK ด้วยตนเองครั้งที่ 2 ทำให้เป็นที่นิยมมาประเทศไทยประมาณหนึ่ง
"จากข้อมูลการลงทะเบียนใน Thailandpass เพื่อเดินทางเข้าประเทศ ถือว่าดีพอสมควร เกินกว่าครึ่งเข้ามา ก่อนหน้ามีลงทืะเบียแล้วเข้ามาประมาณครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ถือว่าเข้าเยอะขึ้น ถือว่ามีความไว้วางใจในประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ศปก.กก.เสนอในที่ประชุมและวางแผนถึง พ.ค.เสนอเป็นหลักการไว้ก่อน คือ ปรับหลักฐานที่ต้องใช้ในระบบ Thailand Pass ให้น้อยลง เพราะต้องไปเทียบกับต่างประเทศที่เป็นคู่แข่งดึงดูดนักท่องเที่ยวไป วงเงินประกันสุขภาพจาก 2 หมื่นดอลลาร์ดูเหมือนแพง โดยเฉพาะประเทศชายแดนจะลดลงได้หรือไม่ Test&Go ปรับรูปแบบอย่างอื่นได้หรือไม่ ประเทศอื่นเป็น ATK แล้ว การกักตัวก็ลดเวลาลง ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือลูกเรือลดระยะเวลากักตัวลงได้หรือไม่ ผู้ติดเชื้อจากเดิมอาการเล็กน้อยไปเข้า AQ กักตัว 10 วัน 7 วัน แต่ความรุนแรงของโรคลดลงก็ต้องลดลงด้วย คนเสี่ยงสูงอาจจะยกเลิกการกักตัวหรือไม่
"ศบค.เห็นชอบในหลักการ แต่ยังไม่อนุมัติ โดยขอให้ดูผลระยะในช่วงสงกรานต์นี้ ว่าคนไทยร่วมมืออย่างไร ทำให้ตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ซึ่งตัวเลข 1 เม.ย. คนติดเชื้อมาจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจะเป็นตัวปัจจัยสำคัญบอกว่า พ.ค.จะเป็นอย่างไร จะนำมาเข้าที่ประชุมต่อไป" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. ได้รับทราบแผนการจัดหา Long-Acting Antibody (LAAB) คือ ยาอย่างหนึ่งเหมือนเป็นวัคซีน ฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป แทนที่จะไปกระตุ้นการสร้างภูมิ ฉีดแล้วเป็นภูมิขึ้นมาเลย สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่ไม่สามารถกระตุ้นภูมิด้วยวัคซีนอื่นๆ เช่น คนมีโรคประจำตัว มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือให้ก่อนการสัมผัสโรค โดยฉีดเข้ากล้าม โดยอัยการสูงสุดได้แนะนำให้ปรับสัญญากับบริษัทแอสตราเซนเนกา ซึ่งจะปรับเปลี่ยนจากวัคซีนบางส่วน ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่ ครม.อนุมัติไว้แล้ว โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม