‘กลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้า’ ยื่นหนังสือถึง ‘ผู้ว่าฯโคราช’ ขอให้ช่วยหย่าศึกปมขัดแย้งภายใน ‘หอการค้าฯนครราชสีมา’ หลังมีการฟ้องร้อง ปมยกหนี้ ‘โครงการพันธมิตร’ 7 แสนบาท เสนอตั้ง 'คณะกรรมการฯ' จากคนภายนอก ตรวจสอบ 4 ประเด็น
....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้า ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา อดีตผู้บริหารหอการค้า จ.นครราชสีมา และผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมกับหอการค้า จ.นครราชสีมา ได้ยื่นหนังสือถึง นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง ขอให้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการจากบุคคลภายนอก กรณีปัญหาและความขัดแย้งของหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ หนังสือฉบับดังกล่าว ได้ระบุถึงเรื่องก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และขอให้ผู้ว่าฯนครราชสีมา ในฐานะนายทะเบียนหอการค้าประจำจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการจากบุคคลภายนอกเข้ามาตรวจสอบในประเด็นความขัดแย้งต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย 4 ประเด็น ได้แก่
1.กรณีการจัดทำโครงการพันธมิตร ในประเด็นเงินจำนวน 700,000 บาท
2.กรณีการบริหารองค์กรด้านการใช้อำนาจและการจัดประชุม
3.กรณีการเงินการบัญชีและทรัพย์สินขององค์กร
4.การจัดทำโครงการ และกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กรฯ
“จากข้อปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหากปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไป อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในองค์กร และโครงการที่จะมีร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชนในอนาคต ในฐานะที่ท่านเป็นนายทะเบียนหอการค้าประจำจังหวัดนครราชสีมา ตาม พ.ร.บ.หอการค้า พ.ศ.2509 จึงขอความกรุณาจากท่านให้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการจากบุคคลภายนอกเพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ช่วยไขข้อสงสัยที่ทำให้เกิดปัญหาและความขัดแย้งนี้ให้กระจ่างเป็นที่ยอมรับ โดยขอให้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการอันประกอบไปด้วยตัวแทนด้านยุติธรรม ตัวแทนวิชาชีพผู้ตรวจสอบบัญชี ตัวแทนจากสถาบันอุดมศึกษา ตัวแทนด้านการบริหารองค์กร ตัวแทนธรรมาภิบาลจังหวัด ตัวแทนด้านการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน และอื่นๆ ตามที่ท่านเห็นสมควร” หนังสือของกลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้าลงวันที่ 1 เม.ย.2565 ระบุ
แหล่งข่าวจากอดีตผู้บริหารหอการค้าจังหวัดนครราชสีมารายหนึ่ง กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า ในช่วงที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งระหว่างอดีตประธานหอการจังหวัดนครราชสีมารายหนึ่ง กับอดีตผู้บริหารหอการจังหวัดนครราชสีมาในยุคก่อน เกี่ยวกับเงินสนับสนุน ‘โครงการพันธมิตร’ ซึ่งเป็นเงินที่บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะจ่ายให้กับหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา แลกกับการที่หอการค้าฯ ทำการประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทฯผ่านสื่อช่องทางต่างๆให้ตลอดทั้งปี
โดยมีข้อเท็จจริงปรากฏว่า บริษัทฯที่อดีตประธานหอการจังหวัดนครราชสีมารายดังกล่าวเป็นเจ้าของ 3 บริษัท ไม่ได้ชำระเงินในโครงการพันธมิตร รวมเป็นเงิน 5 แสนบาท และต่อมาคณะกรรมการหอการจังหวัดนครราชสีมาชุดปัจจุบันที่มี นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ เป็นประธานกรรมการหอการค้าฯ ได้มีมติให้ยกหนี้สินจำนวน 5 แสนบาท ให้กับอดีตประธานหอการจังหวัดนครราชสีมารายนั้น โดยอ้างเรื่องผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
แต่หลังจากคณะกรรมการฯมีมติยกหนี้แล้ว อดีตผู้บริหารหอการจังหวัดนครราชสีมาในยุคก่อนคนหนึ่ง เห็นว่า การกระทำของคณะกรรมการหอการจังหวัดนครราชสีมาชุดปัจจุบัน ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อหอการค้าฯทำงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทฯที่มีอดีตประธานหอการจังหวัดนครราชสีมาเป็นเจ้าของตามที่ตกลงกันไว้ อีกทั้งมีสัญญาและข้อตกลงกันชัดเจน ดังนั้น การยกหนี้ให้โดยอ้างเรื่องสถานการณ์โควิด จึงไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรมกับบริษัทฯอื่นๆที่จ่ายเงินไปแล้ว
ขณะเดียวกัน อดีตผู้บริหารหอการจังหวัดนครราชสีมาคนนี้ ยังได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านโซเซียลมีเดียด้วย แต่ข้อความที่โพสต์ลงไปนั้น ได้สร้างความไม่พอใจให้กับอดีตประธานหอการจังหวัดนครราชสีมารายนั้นเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเกิดการฟ้องร้องหมิ่นประมาทกันในที่สุด
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า นอกจากการยกหนี้ 5 แสนบาทในโครงการพันธมิตร ให้กับอดีตประธานหอการจังหวัดนครราชสีมา แล้ว อดีตสมาชิกหอการค้าฯ ยังตั้งคำถามในกรณีที่คณะกรรมการหอการจังหวัดนครราชสีมาชุดปัจจุบันยกหนี้ในโครงการพันธมิตร ให้กับห้างค้าปลีกรายใหญ่และมีชื่อเสียงระดับประเทศในจังหวัดนครราชสีมารายหนึ่ง เป็นเงิน 2 แสนบาท โดยอ้างเรื่องโควิด ว่า เป็นไปได้อย่างไรที่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างนั้น จะไม่สามารถนำเงิน 2 แสนบาทมาจ่ายได้
นอกจากนี้ ยังมีอดีตผู้บริหารและสมาชิกหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาจำนวนหนึ่ง ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบริหารงานของคณะกรรมการหอการจังหวัดนครราชสีมาชุดปัจจุบันว่า อาจไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หอการค้า พ.ศ.2509 เช่น การอนุมัติเงินของประธานหอการจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการฯ ที่เกินขอบเขตอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงการใช้อำนาจในการจัดการประชุมที่ไม่เคร่งครัดเหมือนการประชุมคณะกรรมการฯในอดีต
“กลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้า ต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้ามาช่วยดูแลไกล่เกลี่ยและหย่าศึกในเรื่องนี้ เพราะตอนนี้มีสมาชิกถามไถ่กันมามาก โดยเฉพาะในเรี่องที่มีการฟ้องร้องกัน เพราะไม่อยากให้เกิดการแตกความสามัคคี” แหล่งข่าวจากอดีตผู้บริหารหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้า กล่าว