‘อัศวิน ขวัญเมือง’ ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันมีอิสระ ไม่แอบอิงพรรคการเมือง ชู 8 นโยบายสานต่องานเดิม เปิดตัวผู้สมัคร ส.ก. 50 เขตร่วมทีม ‘รักษ์กรุงเทพ’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2565 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) แถลงเปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมเปิดตัวทีมงาน ในแคมเปญ ‘กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ’ โดยภายในงานเริ่มจากปล่อยวีดีทัศน์ย้อนผลงานในช่วงดำรงตำแหน่ง 5 ปี 5 เดือนที่ผ่านมา
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ตนได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ตอนนี้เป็นเพียงอดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่ไม่ได้มาหัวเดียวกระเทียมลีบ แต่มีทีมทำงาน สิ่งที่จะทำต่อไป คือเราจะสร้างความเท่าเทียมในสังคม ไม่ดูแลเฉพาะคนรวย แล้วคนจนไม่ดูแล เพราะนั่นไม่ใช่อัศวิน
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนต่างจังหวัด เดินทางเข้ามา กทม.มาหาความหวังและหาโอกาส และเชื่อว่ามีหลายคนที่เป็นเหมือนตน และความบังเอิญไม่มีในโลก มีแต่สิ่งที่พระเจ้าไต่ตรองมาให้แล้ว ตนเรียนจบ มีงานทำใน กทม.และกลายเป็นคน กทม.ไปโดยปริยาย ซึ่งได้พบเห็นปัญหาหมักหมมมานาน ไม่ว่าจะเรื่องฝนตก น้ำท่วม การจราจรติดขัด พื้นที่สีเขียวไม่เพียงพอ และสิ่งที่ตนจะทำคือการเติมเต็มความคาดหวังและโอกาสให้ประชาชน เพราะคนเป็นผู้ว่าฯ กทม. การดูแลประชาชน เป็นการบ้าน ไม่ใช่การเมือง และขอยืนยันว่า ตนเป็นอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
“ขอยืนยันว่า อัศวิน ขวัญเมือง อิสระอย่างแท้จริง ผมทำงานร่วมกับคนบางกลุ่ม แต่ไม่ใช่พรรคการเมือง ผมมีความอิสระ ไม่แอบอิงพรรคหนึ่งพรรคใด ผมมีเอกภาพในการทำงาน ตัดสินใจได้เอง พร้อมทีมงานของผม” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวยอมรับว่า ตัวเองไม่ใช่นักคิด เขียนนโยบายไม่เก่ง แต่เป็นนักปฏิบัติที่พร้อมหาคนเก่งมาช่วยทำงาน และตลอด 5 ปี 5 เดือนที่ผ่านมาก็ได้ทำงานแก้ปัญหาไปแล้วหลายเรื่อง เช่น ลดพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากจาก 24 จุดเหลือ 9 จุด , พัฒนาคลองโอ่งอ่างที่ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่เป็นพื้นที่ระบายน้ำ โบราณสถาน และพื้นที่เศรษฐกิจ , เพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ปัจจุบันมีถึง 7.34 ตารางเมตรต่อคนจากเดิมมีเพียง 5.79 ตารางเมตรต่อคน รวมถึงตลอดเวลาการทำงานยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน
“ท่านไปดูได้ ผ่านมา 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ผมไม่มีปัญหาเรื่องทุจริต ไม่มีแน่นอน ผมระมัดระวังกฎหมายและระเบียบราชการ ถ้าไม่ผิด 2 เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหา ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำ ขอยืนยันว่าหยาดเหงื่อแรงงานที่เสียภาษีให้รัฐ ทุกบาททุกสตางค์ต้องกลับคืนไปสู่พวกท่าน” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
สำหรับนโยบายหลักที่ พล.ต.อ.อัศวิน ใช้ในการหาเสียง อยู่ภายใต้หัวข้อ ‘ไปต่อจากที่ทำไว้แล้ว’ ประกอบด้วย 8 นโยบายหลัก
- นโยบายเมืองป้องกันน้ำท่วม แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่เหลืออีก 9 จุด
- นโยบายเมืองเดินทางสะดวก เชื่อมต่อการเดินทางด้วยล้อ ราง เรือ
- นโยบายเมืองแห่งสุขภาพ สร้างโรงพยาบาล 4 มุมเมือง ทำโครงการพบแพทย์ใน 60 นาที
- นโยบายเมืองใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน เพิ่มพื้นที่สีเขียว
- นโยบายเมืองแห่งการเรียนรู้ ทำให้เด็กมีความพร้อมสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ได้รับการศึกษาทั้งทักษะอาชีพและความรู้พร้อมกันไป
- นโยบายเมืองปลอดภัย เพิ่มกล้อง cctv เพิ่มไฟฟ้าส่องสว่าง ปรับปรุงทางม้าลาย ขีดสีตีเส้นให้ชัดเจนขึ้น
- นโยบายเมืองดิจิทัล ยกระดับการบริการด้วยความเท่าเทียมด้วยระบบดิจิทัล
- นโยบายเมืองดูแลคนทุกกลุ่มทุกวัย ดึงคนรุ่นใหม่มาช่วยคิดช่วยทำงาน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ยังเปิดตัว ‘คนลุยเมือง’ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยทำงาน รวมถึงยืนยันว่า คนเหล่านี้จะได้เป็นผู้บริหารรหากได้กลับมเป็น ผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง อาทิ
นายจิรวัฒน์ จังหวัด ผู้ร่วมออกแบบ รถ BMV Feeder และเชื่อมต่อการเดินทางในกรุงเทพ , น.ส.ณภัทร วัชราภรณ์ ที่ปรึกษานโยบายสาธารณะ และ นักศึกษาปริญญาเอก , น.ส.ปุณยวีร์ ประดิษฐ์พงศ์ ผู้ผลักดันสนามสเกตสวนรถไฟ ,นายสว่าง ศรีสม นักเคลื่อนไหวด้านการเข้าถึงของคนทั้งมวล , น.ส.บวรลักษณ์ ทองมาก นักวิจัยด้านนโยบายสาธารณะ , น.ส.ชมพูนุท พันธศรี หนึ่งในผู้ผลักดันรถ BMV , นายธวัช ศรีวัฒนะ นักชุมชน และ ผู้สมัคร ส.ก. รักษ์กรุงเทพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการเปิดตัวนโยบายแล้ว ยังได้มีการเปิดตัว 'รักษ์กรุงเทพฯ' ที่เป็นผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต ที่ประกาศตัวร่วมสนับสนุนการทำงานของ พล.ต.อ.อัศวิน อีกด้วย
ต่อมา พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนจะส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ในนามทีม 'รักษ์กรุงเทพฯ' ที่มาจาก กลุ่มคนรักคลองฝั่งธน ดังนั้นตนจึงอิสระแท้จริง ไม่มีใครมากดดันตนได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นใคร เราทำงาน ประสานได้ ตั้งบนประโยชน์คนกรุงเทพฯ ถ้าคนกรุงเทพฯไม่ได้ประโยชน์ เราจะไม่ทำ
เมื่อถามถึงกรณีนายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. ออกมาสนับสนุน เพราะเคยอยู่เบื้องหลัง ช่วยการ์ด กปปส. สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. นั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า “อัศวินก็คืออัศวิน ใครจะสนับสนุน ผมก็ยินดีหมด” พร้อมย้ำว่าไม่ใช่แค่ผู้ชุมนุม กปปส. เท่านั้น เพราะไม่ใครที่แตกต่างทางความคิด แม้คิดต่างกัน แต่อย่าใช้กำลัง ใครทำเรื่องมา ตนก็ดูแลหมด เช่น ขอห้องน้ำ ไฟส่องสว่าง แต่การชุมนุมต้องถูกต้องกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรณีถูกมองว่ามีฐานเสียงเดียวกับ นายสกลธี ภัทธิยกุล ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นั้น พล.ต.อ.อัศวิน มองว่า ตนไม่ได้มองฐานเสียงใคร แต่ผมมองประชาชนทุกคน ซึ่งผู้สมัครทุกคนล้วนเก่งทั้งหมด หากรักใครชอบใครก็เลือกคนนั้น แต่ถ้าไม่รู้จะเลือกใครให้หันมามองอัศวิน ส่วนเรื่องผลโพล ตนมองว่า ต้องให้ประชาชนตัดสินเอง ซึ่งเราไม่ได้ปิดกั้น เมื่อเรามาทำงานการเมือง ก็ต้องเลือกว่าจะได้ดีใจหรือเสียใจ แม้ตนทำใจไว้แล้ว แต่ก็มีความมั่นใจ ไม่เช่นนั้นคงไม่มาสมัครครั้งนี้
นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ยอมรับว่า คนเรามีทั้งชอบทั้งชัง ไม่มีใครที่คนรักหมด แต่ตนเชื่อว่าคนรักตน 100 % และปกติตนเป็นคนเต็มร้อย แต่ตอนนี้ 200-300 %
พล.ต.อ. อัศวิน กล่าวถึงกรณีที่มีข่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา จะมาร่วมงานในวันนี้ว่า เดิมแจ้งว่าจะมาแต่ก็ได้โทรศัพท์มาบอกว่าติดงาน เขาเป็นรุ่นน้อง ก็เป็นธรรมดาที่ให้กำลังใจ สนับสนุน ตอนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะลงสมัครตนก็ให้กำลังใจเขา รวมถึงนายชัชชาติ และ ดร.เอ้
ส่วนที่มีการลงสมัครวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการทำงานไม่สำเร็จ ทำไม่จบนั้น เป็นเรื่องปกติตนย้ำเสมอว่าคนในโลกนี้มีทั้งคนชอบและคนชัง เหมือนตอนที่เป็นเด็กๆทำข้อสอบร้อยข้อจะทำถูกต้องทุกข้อหรือ แม้กระทั่ง 'อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์' ยังทำไม่ถูกทั้งร้อยข้อเลย อย่างไรก็ตามในส่วนของ ผอ.เลือกตั้งคงไม่ต้องเฟ้นหาใคร ที่ช่วยงานอยู่ ก็มีความรู้ความสามารถ เช่น พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้ว่าฯ
อ่านประกอบ :