ไทยติดโควิดเพิ่ม 22,818 ราย อาการหนัก 1,115 ราย สะสมทะลุ 3 ล้าน ส่วน ATK เป็นบวก 33,085 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อวันนี้อยู่ที่ 55,876 ราย ขณะที่หายป่วยเพิ่ม 18,462 ราย เสียชีวิต 52 ราย เป็นเด็ก 5 เดือน 1 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565 ศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 22,818 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 22,566 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 22,403 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 163 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 115 ราย อีก 137 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 3,004,814 ราย
ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้อยู่ที่ 33,085 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมสูงถึง 55,876 ราย
หายป่วยเพิ่ม 18,462 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 232,147 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,124 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 355 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 52 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 23,176 ราย
ด้านผู้เสียชีวิต 52 ราย มาจาก กทม. 7 ราย ปริมณฑล 7 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 ราย ภาคเหนือ 7 ราย ภาคใต้ 8 ราย และภาคกลาง 18 ราย แบ่งเป็นชาย 33 ราย หญิง 19 ราย อายุระหว่าง 0.5-104 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 คิดเป็น 92% จำแนกเป็น ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี 40 ราย คิดเป็น 77% ป่วยเรื้อรัง 8 ราย คิดเป็น 15% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 4 ราย คิดเป็น 8% สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ มีโรคประจำตัว โดยติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว และอยู่ในพื้นที่ระบาด
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,809 ราย ชลบุรี 1,126 ราย นครศรีธรรมราช 1,067 ราย สมุทรปราการ 891 ราย สมุทรสาคร 670 ราย ระยอง 669 ราย นครปฐม 667 ราย ภูเก็ต 658 ราย พระนครศรีอยุธยา 656 ราย และนนทบุรี 654 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 87,203 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 28,665 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 137,820 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 124,649,712 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 53,867,360 ราย คิดเป็น 77.4% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,840,169 ราย คิดเป็น 71.7% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 20,942,18 ราย คิดเป็น 30.1%
เดินทางเข้าไทยติดเชื้อใหม่ 137 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 137 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 67 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 32 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 9 ราย และลักลอบ 29 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน มี.ค. สะสมรวม 443 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 290 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 144 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 9 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.64 ล. รวมสะสม 444.02 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,643,898ราย รวม 444,029,251 ราย อาการหนัก 72,009 ราย หายป่วย 376,679,833 ราย เสียชีวิต 6,009,837 ราย โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,293,249 ราย สะสม 4,212,652 ราย เยอรมนี พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,075,329 ราย สะสม 15,579,480 ราย เวียดนาม พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 734,744 ราย สะสม 4,059,262 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก
ไทยป่วยโควิดใหม่ 22,818 อาการหนัก 1,124 เสียชีวิต 52 ราย เป็นกลุ่ม 608 ถึง 92%
อนึ่งเมื่อเวลา 09.20 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 22,818 ราย เฉลี่ย 14 วันจำนวน 22,247 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 22,681 ราย อีก 137 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมระลอก ม.ค. 781,379 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 18,462 ราย สะสมรวมระลอก ม.ค. 580,997 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 232,147 ราย อาการหนัก 1,124 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 355 ราย
ขณะที่เสียชีวิตเพิ่ม 52 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและป่วยเรื้อรัง (608) 48 ราย คิดเป็น 92% ส่วนไม่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม 36 ราย และได้รับวัคซีนสองเข็มแล้ว 16 ราย โดยมีอาการติดเชื้อในปอดชัดเจน 28 ราย ไม่มีอาการติดเขื้อในปอด 5 ราย และที่เหลือข้อมูลไม่ชัดเจน