ชงตั้ง‘ผอ.สวทช.’28 ก.พ.! พนง.ร่อนจม.เปิดผนึกถึง‘บิ๊กตู่-เอนก’ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร

‘พนักงาน สวทช.’ ร่อนจม.เปิดผนึกถึง ‘นายกฯ-ประธาน กวทช.’ ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ‘ผอ.สวทช.’ บางราย ที่อาจมีปัญหา ‘ธรรมาภิบาล’ หลังข่าวสะพัดจะมีการเสนอ 'บอร์ด กวทช.' แต่งตั้ง 28 ก.พ.นี้ 

................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. พนักงานและเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) โดยขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นผู้อำนวยการ สวทช. ในเรื่องธรรมภิบาลและความโปร่งใสในการบริหารองค์กร

จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ มีเนื้อหาว่า สืบเนื่องจากประกาศของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เรื่อง การรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เมื่อเดือน ก.ค.2564 และปิดการรับสมัครในวันที่ 26 ส.ค.2564 เพื่อเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.2565 มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี

ในการดำเนินการดังกล่าว คณะอนุกรมการสรรหาฯได้มีการพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครและจะเสนอรายชื่อให้คณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) พิจารณา ในวันที่ 27 ก.ย.2564 ซึ่งเกิดประเด็นปัญหาในคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อในเรื่องธรรมาภิบาล ความโปร่งใสของการบริหารองค์กร เช่น ประเด็นการยื่นขอรับทุนเป็นเมธีวิจัย สกว. ซึ่งระบุชัดเจนว่า ผู้ขอรับทุนจะต้องไม่มีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร ซึ่งในขณะนั้นบุคคลดังกล่าวดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีในมหาวิทยาลัย เป็นต้น

ด้วยคุณสมบัติที่ไม่สง่างามดังกล่าว พนักงานและเจ้าหน้าที่ของสวทช.ได้เกิดความกังวลใจ และนัดหมายแสดงออกด้วยการแต่งชุดดำประท้วง (อ้างอิงข่าวจาก นสพ.มติชน วันที่ 26 ก.ย.2564 https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2959306) ซึ่งเรื่องการเสนอชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาดังกล่าวได้ถูกนำกลับไปพิจารณาให้รอบคอบ

พนักงานและเจ้าหน้าที่ สวทช. เฝ้าติดตามผลการพิจารณาอยู่เป็นระยะ ขณะเดียวกัน ก็ได้ทราบว่าบุคคลที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาสรรหาเป็นผู้อำนวยการ สวทช. ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาสรรหาเป็นผู้อำนวยการ สสวท. และถูกจดหมายร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเช่นเดียวกัน (อ้างอิงข่าวสำนักข่าวไทยโพสต์ วันที่ 18 ม.ค.2565 สสวท.ฉาวหนัก พนง.ทำหนังสือร้องเรียนมุบมิบ สรรหา'ผู้อำนวยการ' ไม่โปร่งใส https://www.thaipost.net/education-news/66916 )

จนถึงเวลานี้ พนักงานและเจ้าหน้าที่ของ สวทช. ได้รับทราบข่าวว่า บุคคลดังกล่าวจะได้รับการเสนอชื่อให้ คณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) พิจารณาเป็นผู้อำนวยการ สวทช. อีกครั้งในวันที่ 28 ก.พ.2565

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. เป็นองค์กรสำคัญของชาติในด้านการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม มีโครงการสำคัญระดับชาติที่ต้องขับเคลื่อนอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล ต้องบริหารงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนมากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี

ดังนั้น พนักงานและเจ้าหน้าที่ของ สวทช. จึงมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งในคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการสรรหามาบริหารองค์กร พนักงานและเจ้าหน้าที่ สวทช. เราทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ มุ่งประโยชน์ของชาติและประชาชนและสำคัญ เราคาดหวังว่าบุคคลที่ได้รับการสรรหามาเป็นผู้อำนวยการ สวทช. จะเป็นบุคคลที่เหมาะสม สามารถนำพาองค์กร และบริหารงานเพื่อประโยชน์ของชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล

“พนักงานและเจ้าหน้าที่ สวทช. จึงขอให้สื่อมวลชน ได้โปรดตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการสรรหามาเป็นผู้อำนวยการ สวทช. ว่า มีความถูกต้องเหมาะสมตามระเบียบคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. หรือไม่” จดหมายเปิดผนึกของพนักงานและเจ้าหน้าที่ สวทช. ลงวันที่ 25 ก.พ.2565 ระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุม กวทช. ที่มี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานฯ ในวันที่ 28 ก.พ.2565 มีการคาดหมายว่าอาจมีการพิจารณาวาระการแต่งตั้ง ผู้อำนวยการ สวทช. คนใหม่ โดยผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้อำนวยการ สวทช. คนใหม่ คือ ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในการสรรหาผู้อำนวยการ สวทช.ที่ผ่านมานั้น คณะอนุกรรมการสรรหาฯ ได้ให้คะแนน ศ.ดร.ชูกิจ ที่ 91 คะแนน โดยระบุว่า ศ.ดร.ชูกิจ มีความโดดเด่นด้านวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงการทำงานของ สวทช. ให้มีจุดมุ่งเน้นเฉพาะ เป็นบุคคลภายนอก สวทช. ที่จะส่งผลดีต่อการปรับปรุงการบริหารงานที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง มีประสบการณ์การทำงานกับผู้ร่วมงานที่ผ่านมา ซึ่งจะนำพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคต

อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯมีความเห็นว่า การแต่งตั้ง ศ.ดร.ชูกิจ นั้น มีความเสี่ยงสูงในด้านการบริหารจัดการที่จะต้องสร้างการยอมรับจากบุคคลภายใน จึงจำเป็นต้องให้ กวทช. รับทราบความเสี่ยงในประเด็นนี้ด้วย

อ่านประกอบ :

ยืนโทษคุก 7 ปี! อดีตผู้ช่วยผอ.สวทช. เอื้อปย.เอกชนจัดซื้อจ้าง-เอารถส่วนตัวให้สถาบันฯเช่า