'วิษณุ'แจงตั้ง 'สราวุธ'นั่งสารพัดบอร์ด รัฐบาลแค่ทำตามที่หน่วยงานชงมา ตั้งแต่มีการรายงานขึ้นมาจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีปัญหา ส่วนปมสอบ 'TCAS' เป็นแค่การเตือนให้ระวังอย่าติดโควิด ชี้ 1 ปี สอบหลายครั้ง ถ้าติดโควิดก็สอบครั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายสราวุธ เบญจกุล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ และรองประธานอนุกรรมการในคณะอนุกรรม ก.ตร. ว่า หน่วยงานที่เขาเป็นเจ้าของเรื่องเป็นผู้เสนอ และทั้งหมดที่แต่งตั้งให้นายสราวุธดำรงตำแหน่งใดก็ตาม ไม่ได้เป็นการเลือกไปจากข้างบน อย่างกรรมการสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็มีคณะกรรมการสรรหามาก่อนแล้วเสนอขึ้นมา หน้าที่ของรัฐบาลคือการนำความกราบบังคมทูลฯ ส่วนการตั้งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ เป็นการเสนอผ่านรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง อย่างไรก็ตาม การทบทวนทำได้ทั้งนั้น แต่เป็นเรื่องของหน่วยงานที่จะไปตั้งตรงดำเนินการ
ส่วนประเด็นที่ว่าได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายสราวุธ มาก่อนหรือไม่ว่าได้ถูกตรวจสอบจากประธานศาลฎีกา นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ยินแว่วๆ แต่ไม่พบว่ามีอะไรชัดเจน ยังไม่มีการลงโทษอะไรชัดเจน แต่ข้อสำคัญคือนายสราวุธไม่ใช่ผู้พิพากษา ไม่ได้เป็นข้าราชการตุลาการ แต่เป็นข้าราชการธุรการของสำนักงานศาลยุติธรรม และตำแหน่งปัจจุบันนั้นคือที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่ที่ปรึกษาศาล แต่เป็นในส่วนของสำนักงาน
แต่จะไม่มีปัญหาในภายหลังหรือไม่ หากผลตรวจสอบออกมาว่านายสราวุธผิด นายวิษณุ กล่าวว่า ที่มีการรายงานขึ้นมานั้นพบว่าขณะนี้ยังไม่มีปัญหา
แจงปมสอบ 'TCAS' เป็นการเตือนให้ระวังอย่าติดโควิด
ขณะเดียวกัน นายวิษณุ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่มีกระแสเรียกร้องให้คนที่ติดโควิดเข้าสอบทีแคส (TCAS) ได้ว่า ได้หารือกับทางกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ปรากฏว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เป็นเรื่องของกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการสอบทีแคส เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเขาจะมีสูตรของเขาว่าการสอบแบบนี้ ปีหนึ่งจะมีการสอบหลายครั้งถ้าติดครั้งนี้ก็ไปสอบในครั้งต่อไป
โดยจะมีออปชันให้เลือกว่าในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะมีการเลือกสอบทีแคสหรือสอบอย่างอื่นก็ได้ ถ้าสอบทีแคสและติดโควิดก็เปลี่ยนไปเลือกสอบอย่างอื่น แต่จะใช้วิธีให้สอบใหม่ทั้งหมดคงทำไม่ได้ เพราะจะเป็นข้อสอบคนละชุดกันและคนละมาตราฐานมีความยากง่ายต่างกัน มันก็จะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบต้องไปสอบให้เหมือนกับคนอื่นเขา ส่วนจะสอบช้าหรือเร็วก็แล้วแต่ เพราะปีหนึ่งมีหลายครั้ง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นการเตือนออกมาก่อน เพราะยังไม่มีการสอบทีแคส เป็นการเตือนให้ระมัดระวังอย่าให้ติดโควิดเข้า เพราะถ้าติดและมันจะมีปัญหา อย่างการสอบ กพ.ไม่มีปัญหาสามารถเลื่อนไปได้เลย แต่กรณีทีแคสเลื่อนไม่ได้ ก็ต้องสอบ
ส่วนความคิดเห็นว่าควรจะมีการกำหนดเป็นมาตราฐานในทุกการสอบด้วยหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า นี่ล่ะ เพราะเป็นการใช้ข้อสอบเดียวกัน วันนี้ถ้ามีคนติดโควิดขึ้นมาถ้าน้อยคน เขาก็คิดว่าจะแยกสอบคนละห้อง แต่ถ้ามากคนโดยเฉพาะมีกลุ่มเสี่ยงเกิดขึ้นอาจจะแยกห้องลำบาก เพราะจำนวนคนเยอะ หรือ ถ้าติดก็เลื่อนไปสอบในครั้งหน้า ฉะนั้นเขาจึงเตือนออกมาก่อนยังไม่ถึงวันสอบ ขอให้ระวังอย่าให้ติด เพราะการไปนั่งสอบ 3 ชั่วโมง ในห้องแอร์และสวมหน้ากากถือว่าอันตราย
แต่ทางที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จะต้องมีการหารือเรื่องนี้กับทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างจริงจัง ขณะนี้เขาก็หารือกันอยู่
นายวิษณุ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ปรากฏว่าเหตุการณ์ดังกล่าว จะทำให้เด็กเสียสิทธิ์หรือไม่ ว่า เขาจะดูแลให้ดีคือระมัดระวังอย่าให้เป็น
"ผมบอกแล้วว่าถ้าน้อยๆไม่กี่คน 50 ถึง 60 คน ไม่เป็นไร สามารถไปแยกสอบนั่งอีกห้องนึง เหมือนคนป่วยที่อยู่โรงพยาบาลสนามแบบนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้าติดโควิดและมีคนสุ่มเสี่ยงจำนวนเยอะเป็นหลักหมื่นจะลำบาก แบบนี้เขาต้องใช้วิธีเลื่อนไปสอบในครั้งต่อไป ซึ่งจะเลื่อนทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะจะเสียสิทธิ์เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์สอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนี้เขากำลังคุยกับกระทรวงสาธารณสุข”
ส่วนการสอบ กพ.ได้เลื่อนไปแล้ว จำนวน 800,000 คนโดยไม่มีกำหนด จากเดิมจะสอบ ม.ค. 400,000 คน ก.พ.อีก 400,000 คน ตอนนี้เลื่อนไปทั้งหมด