ตำรวจทลายเครือข่ายโกงประกัน เอาน้ำร้อนราดสร้างบาดแผล เบิกเอาเงินประกัน มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) นำทีมตำรวจแถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายขบวนการฉ้อโกงบริษัทประกันภัยเสียหาย 20 ล้านบาท หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 16 ราย ประกอบด้วย
- น.ส.เตือนใจ เทศงามถ้วน อายุ 59 ปี
- น.ส.เตือนจิตต์ เทศงามถ้วน อายุ 52 ปี
- นายสุธี แขวงสุ่น อายุ 42 ปี
- นางศิริพร แขวงสุ่น อายุ 41 ปี
- นายมูฮัยมีน สาและ อายุ 31 ปี
- น.ส.สุมลรัตน์ ลิขิตศรีไพบูลย์ อายุ51 ปี
- นางประภัสสร ลิขิตศรีไพบูลย์ อายุ 45 ปี
- นายธรรมรงค์ อาศัยบุญ อายุ 41 ปี
- นายกตัญญู จันทรัตน์ อายุ 38 ปี
- น.ส.วราพร ประทุมสุวรรณ์ อายุ 33 ปี
- นางเตชินี เพชรนิล อายุ 60 ปี
- นายแสนดี เทพยศ อายุ 36 ปี
- นางหนูพิน ปัดชัยโย อายุ 51 ปี
- นายเคียง มิตสหมั้น อายุ 57 ปี
- นางวนิดา มิตสหมั้น อายุ 56 ปี
- นางศิริทิพย์ เล่งสีสัน อายุ 42 ปี
สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มบริษัทประกันภัยเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์ในการฉ้อโกงบริษัทประกันภัย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งรูปแบบของผู้ต้องหากลุ่มนี้จะจัดฉากสร้างบาดแผลขึ้นมาเพื่อฉ้อโกงเงินประกันจากบริษัทประกันภัย โดยวิธีการจะเริ่มจากการชักชวนประชาชนให้เข้ามาร่วมขบวนการพร้อมทำข้อตกลงให้ค่าจ้างตามลักษณะบาดแผล เช่น หากได้รับบาดเจ็บนอนโรงพยาบาลจะได้รับเงินคืนละ 3,000 บาท เมื่อมีผู้สนใจเข้าร่วมก็จะย้ายชื่อเข้ามาในบ้านที่จัดเตรียมไว้เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ จากนั้นก็จะให้ผู้สมัครใจเหล่านี้ไปเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมกับทำบัตรเอทีเอ็ม ก่อนยึดสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ จากนั้นก็จะพาผู้สมัครใจเหล่านี้ไปทำประกันภัยกับบริษัทต่างๆ
ต่อมาเมื่อได้กรมธรรม์มาแล้วประมาณ 1-2 เดือน กลุ่มผู้ต้องหาก็จะนัดให้ผู้สมัครใจเหล่านี้มาวางแผนสร้างบาดแผล ลักษณะต่างๆ ขึ้น เช่น การนำน้ำแกงเผ็ดเดือดราดที่บริเวณขาให้ได้รับบาดเจ็บ แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะนำเอกสารกรมธรรม์ไปยื่นเบิกเงินประกันกับบริษัทประกันภัยต่างๆ ซึ่งแต่ละคนทำไว้คนหลายบริษัท หลายกรมธรรม์ ทำให้จะได้รับเงินส่วนต่างที่เหลือเป็นจำนวนมาก จากการสืบสวนพบว่า มีผู้เอาประกันที่ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลน้ำร้อนลวกเหมือนกันและเบิกเงินประกันในลักษณะดังกล่าวทั้งสิ้น 13 ราย
นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า ที่ผ่านมามีขบวนการกลุ่มมิจฉาชีพที่กระผิดลักษณะดังกล่าวจำนวน 3 เครือข่ายใหญ่ ในพื้นที่ภาคใต้ พบมีความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ในจำนวนนี้พบว่าบริษัทประกันภัยได้จ่ายเงินค่าชดเชยไปแล้ว รวมเป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายเงินประกันอีกกว่า 6 ล้านบาท
ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับขบวนการเหล่านี้ จำนวน 18 คน 19 หมายจับ พร้อมกับขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นจำนวน 15 จุด ทั่วประเทศเพื่อติดตามจับกุมจนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเหล่านี้ได้จำนวน 16 คน พร้อมอายัดตัวผู้ต้องหาอีก 1 รายที่อยู่ระหว่างรักษาตัวจากอาการป่วยโควิด คงเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการติดตามอีก 1 ราย
ในจำนวนผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้ว 16 คนนั้น มีตัวการใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการรวมอยู่ด้วย 3 คน คือ น.ส.เตือนใจ น.ส.สุมลรัตน์ และ นางเตชินี รวมถึงผู้ต้องหาคนสำคัญที่ทำหน้าที่จัดฉากสร้างบาดแผลให้กับผู้สมัครใจเอาประกัน 3 ราย คือ นายสุธี นายธรรมรงค์ อย่างไรก็ตามจากปฏิบัติการดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน จำนวน 2 กระบอก และกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 12 นัด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 16 คน เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธจำนวน 15 คน มีเพียง นายธรรมรงค์ เพียงคนเดียวที่รับสารภาพว่า ตนเองมีหน้าที่ทำบาดแผลให้ผู้สมัครกลุ่มขบวนการของ น.ส.สุมลรัตน์ โดยจะได้รับค่าจ้างในการสร้างแผลครั้งละครั้งละ 500-1,000 บาท แล้วแต่ควาทยากง่ายของบาดแผลที่จะทำ เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป