สมาคม อบจ.-ชมรม รพ.สต. โต้ กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ขัดขวางการกระจายอำนาจด้านสาธารณสุขให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น อาจทำประชาชนเดือดร้อน เร่งรัดนายกฯพิจารณาถ่ายโอน รพ.สต. ให้ อบจ.ตามแผน เชื่อยกระดับสุขภาพคนไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2564 นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาอุปสรรคในการจัดบริการสาธารณะ กิจกรรมสาธารณะ และหาแนวทางในการแก้ไขเรื่องการถ่ายโอนภารกิจด้านการพัฒนาแหล่งน้ำให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับตัวแทน กมธ. และนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ รับยื่นหนังสือจาก นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และนายสมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลประเทศไทย กรณีประธานคณะ กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา มีหนังสือกราบเรียน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ยับยั้งการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยอ้างว่าอาจสร้างปัญหาต่อระบบสาธารณสุขในอนาคต และขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาจัดให้มีคณะกรรมการศึกษากรณีดังกล่าว ให้รอบคอบก่อนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 นั้น
สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมกับชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลประเทศไทย มีความเห็นร่วมกันว่า เจตนาของคณะ กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ที่มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี เป็นไปเพื่อยับยั้งงบประมาณ ไม่ให้มีการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต. ให้แก่ อบจ. น่าจะเป็นการขัดขวาง ก้าวก่าย และแทรกแซงนโยบายรัฐบาล ก้าวก่ายแทรกแซงคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และน่าจะเป็นการก้าวก่ายแทรกแซง อบจ. ราชการส่วนท้องถิ่น ขัดขวางประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. เรื่องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และ รพ.สต.ให้แก่ อบจ. ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564 โดยมีผลบังคับใช้และมีผลผูกพันกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว
ทั้งนี้ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมกับชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลประเทศไทยมีความเห็นร่วมกันว่า ไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นใด ๆ ที่คณะ กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ต้องกราบเรียนนายกรัฐมนตรีให้ยับยั้งการถ่ายโอนภารกิจ รพ .สต. ให้แก่ อบจ. ซึ่งการเสนอยับยั้งการเกลี่ยงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการถ่ายโอนภารกิจของ สอน. และ รพ.สต. ไปสังกัด อบจ. โดยไม่รับฟังความเห็นของบุคลากรสาธารณสุขใน รพ.สต. อาจเป็นการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นต่อกัน จนเกิดผลเสียหายแก่ประชาชนผู้รอรับบริการสาธารณสุขปฐมภูมิที่ดีจากรัฐบาลและผู้มีอำนาจรัฐ
ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมกับชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลประเทศไทย ขอยืนยันเจตนารมณ์สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการกระจายอำนาจด้านสาธารณสุขให้แก่ อปท. โดยการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.ให้แก่ อบจ. และขอกราบเรียนนายกรัฐมนตรีพิจารณาเร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจ สอน. และ รพ.สต. ให้แก่ อบจ. ตามราชกิจจานุเบกษาที่ได้ประกาศและถือบังคับใช้ ซึ่งมีผลผูกพันกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว
และได้โปรดพิจารณาสั่งการให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ สนับสนุนงบประมาณ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และทรัพยากรบริหารของ รพ.สต.ถ่ายโอนไปสังกัด อบจ. ในปีงบประมาณ 2566 ให้เป็นไปตามประกาศราชกิจจานุเบกษา คู่มือแนวทางการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต. ให้แก่ อบจ. ตามแผนต่อไป
นายบุญสิงห์ กล่าวว่า คณะ กมธ. ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สพ. ไปที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดในครั้งนี้ไม่เป็นปัญหาอุปสรรคในการจัดบริการสาธารณะ และจะเป็นการส่งเสริมให้การจัดบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีคุณภาพและเป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ คณะ กมธ. ยินดีให้การสนับสนุนประเด็นนี้อย่างเต็มที่
ขณะที่นายสฤษฎ์พงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต. มีความพร้อมทั้งด้านหน่วยบริหารและบุคลากร มีการขับเคลื่อนแผนต่างๆ ไปแล้ว อีกทั้งมีกฎหมายรองรับ แต่กลับสะดุดลงเนื่องจากหนังสือของ กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา จึงขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา อย่าชะลอหรือยับยั้งการถ่ายโอนภารกิจในครั้งนี้ มิฉะนั้นในอนาคตการกระจายอำนาจจะมีเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้นจนทำให้เกิดความล่าช้า ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ข่าวประกอบ :