'พล.อ.ประยุทธ์' แจงปมลดโทษผู้ต้องขังคดีทุจริต กำลังทบทวน ศึกษารายละเอียด-ด้าน 'สมศักดิ์' แจงทุกอย่างทำไปขั้นตอน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีองค์กรต่อต้านการคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์คัดค้านให้มีการทบทวนการลดโทษให้ผู้ต้องขังคดีคอร์รัปชันเพราะเป็นการสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้เศรษฐกิจประเทศ ว่า ตนได้นำเรื่องนี้มาทบทวน หลายวันที่ผ่านมา ที่ยังไม่ได้พูดเรื่องนี้ เพราะว่าต้องศึกษารายละเอียดในหลายเรื่อง ทั้งกฎระเบียบของกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นอยู่กับการคัดกรองตรงนี้ จึงกำลังทบทวนศึกษาว่ามีรายละเอียดอะไรที่ไม่เหมาะสม
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บางทีเรื่องเก่ากำหนดไว้ ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าความผิดเสียหายมากน้อยอะไรอย่างไร ไม่มีในตรงนี้ เรื่องการทุจริตเข้าเกณฑ์ในการพิจารณาแต่ต้องดูว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้มีความเหมาะสมหรือไม่ ที่ต้องแก้ไขตรงนี้หากไม่เหมาะต้องปรับแก้ใหม่ ปีที่ผ่านมา มีการนิรโทษกรรมปีละ 2 ครั้งมาแล้ว 2 ปี ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ในบางกรณีมีความแตกต่างมีผลเสีย มีความเสียหาย ต้องไปแก้ไขกฎระเบียบตรงนั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องของ พ.ร.บ.อาจจะมีการแก้ไขบ้าง แต่ยืนยันว่าจะแก้ปัญหานี้ให้ดีที่สุด อย่าให้เกิดปัญหาความวุ่นวายขึ้นในตอนนี้ ทุกอย่างมีกฎระเบียบทั้งสิ้น ศึกษารายละเอียดแล้ว มีอีกหลายตัว ทั้งนักโทษชั้นดี นักโทษชั้นเยี่ยม มีการลดโทษเท่าใด แต่ไม่ได้มีกำหนดไว้ว่า ในแต่ละปีถ้ามีการนิรโทษจะให้กี่ครั้ง ไม่ได้เขียนตรงนี้ไว้เลย ต้องมีการทบทวนใหม่ทั้งหมด เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้าที่จะมีการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรี ทางด้านของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ตอบข้อสงสัยดังกล่าวที่รัฐสภาว่าตอนหนึ่งซึ่งมีผู้ถามคือนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการไปนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามแนวทางและครรลองต่าง ๆ ซึ่งมีการปฏิบัติมาตั้งแต่ พ.ศ.2459 จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 105 ปี มี พ.ร.ฎ.อภัยโทษผู้ต้องขัง 52 ฉบับ และแนวทางดังกล่าวนั้น ก็แบ่งออกเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อแยกแยะประเภทของโทษ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างชัดเจนในรูปแบบของเอกสาร และมีการปรับปรุงมาเป็นลำดับ
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่าที่ผ่านมาผู้ต้องขังเขาประทับใจในการทำงานของกรมราชทัณฑ์ ในการพักโทษแต่ละครั้งแต่ละคราวตนเห็นแต่มีคนชื่นชมยินดี เพราะไม่ต้องมาเสียเงิน โดยหลักเกณฑ์ในการลดโทษ คือ คดีอาญาทั่วไป ชั้นเยี่ยมลดโทษ 1 ใน 2 ชั้นดีมากลดโทษ 1 ใน 3 ชั้นดีลดโทษ 1 ใน 4 และชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 5 คดีอาญาร้ายแรง เช่น ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ตำแหน่งหน้าที่ ในส่วนนี้ชั้นเยี่ยมลดโทษ 1 ใน 3 ชั้นดีมาก ลดโทษ 1 ใน 4 ชั้นดี ลดโทษ 1 ใน 5 และ ชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 6 บุคคลที่ท่านพูดก็อยู่ในกลุ่มนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คดียาเสพติดรายย่อย ที่โทษจำคุกไม่เกิน 8 ปี ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 5 ชั้นดีมาก ลดโทษ 1 ใน 6 ชั้นดี ลดโทษ 1 ใน 7 และชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 8คดียาเสพติดรายใหญ่ ที่โทษจำคุกเกิน 8 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 6 ชั้นดี มาก ลดโทษ 1 ใน 7 ชั้นดี ลดโทษ 1 ใน 8 และชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 9 นักโทษเด็ดขาด หากท่านจะขอเปลี่ยนให้ลดโทษน้อยลง ตนไม่รู้ว่าสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร เพราะการขอพระราชทานอำนาจเป็นการทั่วไป เป็นของคณะรัฐมนตรีแต่หากเฉพาะบุคคลเป็นอำนาจของ รัฐมนตรีว่าการ ที่ผ่านตนได้ตรวจสอบมาโดยตลอดเพื่อความเรียบร้อย ตนรับผิดชอบในแนวทางตรงนี้