โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ พอใจ 'คนละครึ่ง/ยิ่งใช้ยิ่งได้' รัฐร่วมจ่าย ลดภาระประชาชน ยอดสะสม 2.2 แสนล้านบาท ผู้มีสิทธิสามารถใช้จ่ายสิ้นปีนี้ ขณะที่คลังจ่อชงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเป็นของขวัญปี 2565 เตรียมเสนอเข้า ครม.พิจารณา 21 ธ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจมาตรการใช้จ่ายลดค่าครองชีพจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งและยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่รัฐบาลมีการเพิ่มวงเงินสนับสนุนในการช่วยลดภาระในการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้ง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมทั้งเพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
ความคืบหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ธ.ค. 2564) ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 41.38 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสมรวม 223,827.2 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 26.27 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 194,852.2 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 99,062.5 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 95,789.7 ล้านบาท 2) โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 91,952 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 3,764 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 241.8 ล้านบาท 3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.55 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 22,933.8 ล้านบาท และ 4) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.47 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,035.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม ล่าสุด มีจำนวนกว่า 80,000 ราย ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564
“นายกรัฐมนตรี พอใจภาพรวมเศรษฐกิจช่วงปลายปี กระแสการใช้จ่ายคึกคึก เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลมีการผ่อนคลายและมาตรการเปิดประเทศ สถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนกว่า 50% รวมทั้งสถานประกอบการต่างๆ ส่วนใหญ่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เชื่อว่าคนไทยจะออกออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียน "คนละครึ่ง เฟส 3 และยิ่งใช้ยิ่งได้" ไว้ สามารถใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม นี้ เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าว จะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนและสร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจช่วงปลายดีได้เป็นอย่างดี” นายธนกร กล่าว
ทางด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มเติม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ประชาชน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยมาตรการทั้งหมดดังกล่าว คาดว่าจะ นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ มาตรการหลักๆ ยังคงจะเน้นการประคองการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภค-บริโภคไม่ให้สะดุด โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีมาตรการใหม่ออกมาเพื่อที่จะนำมาแทนโครงการ 'ยิ่งใช้ยิ่งได้' ที่จะครบกำหนดในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก รวมทั้งอาจจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีอื่นๆออกมาเพิ่มเติม
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ของประชาชนในปี 2565 นี้ เราจะออกมา เพื่อช่วยการใช้จ่ายหลายโครงการ โดยเฉพาะกระตุ้นให้กลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อ และอยากออกมาจับจ่ายใช้สอย และที่ผ่านมาโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ไม่ค่อยได้รับความนิยมประชาชน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะชื่อมาตรการ อะไร แต่เบื้องต้นจะเป็นมาตรการที่ได้รับการ ลดหย่อนภาษี ส่วนโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 นั้น จะขอดูอัตราการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงนี้ก่อนว่าปรับดีขึ้นมากน้อยอย่างไร เนื่องจากพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง” นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวด้วยว่า ส่วนผลกระทบการแพร่ระบาดโควิดของสายพันธุ์โอมิครอนนั้น ขณะนี้รัฐบาลยังคงเข้มงวดมาตรการสาธารณสุขเพื่อให้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ และเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้กิจกรรมในช่วงเทศกาลส่งท้ายปลายปี สะดุด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังต้องติดตามความรุนแรงของเชื้อไวรัสตัวนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่าในต้นปี 2565 จะมีการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่แน่นอน โดยเป็นการทบทวนผู้ได้รับสิทธิ และเพื่อเป็นการดูแลประชาชนระดับฐานราก รวมทั้งจะมีความชัดเจน ในนโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าออกมาด้วย