ศบค.รายงานยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 3,618 ราย เสียชีวิต 38 ราย กทม.ยังครองอันดับ 1 ติดเชื้อสูงสุด 847 ราย เปิดชื่อ 10 จังหวัดยังฉีดวัคซีนเข็มแรกน้อยสุด ทั้งในภาพรวมทุกช่วงอายุ-กลุ่ม 608 ขณะที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยเดือน ธ.ค. สะสม สะสม 4.7 หมื่น ติดเชื้อ 63 คน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2564 เวลา 12.30 น. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดประจำวันเพิ่มเติมว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,618 ราย และมีผู้เสียชีวิต 38 ราย โดยเป็นผู้สูงอายุ 27 ราย คิดเป็น 71% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 13% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 84% และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากคนใกล้ชิด คนรู้จัก อาศัยในพื้นที่ระบาด ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว และมีอาชีพเสี่ยง
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม.847 ราย นครศรีธรรมราช 241 ราย สงขลา 182 ราย เชียงใหม่ 134 ราย สุราษฎร์ธานี 133 ราย ชลบุรี 109 ราย ปัตตานี 104 ราย พัทลุง 86 ราย สมุทรปราการ 83 ราย และตรัง 82 ราย
ด้านผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 16 ราย เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร 3 ราย รัสเซีย 2 ราย เยอรมนี 3 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย ไอร์แลนด์ 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย สวีเดน 3 ราย เวียดนาม 1 ราย และลาว 1 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนโควิดเพิ่ม 263,684 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 89,443 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 127,537 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 46,704 ราย รวมสะสม 95,879,742 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 49,398,383 ราย คิดเป็น 68.6% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 42,655,042 ราย คิดเป็น 59.2% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 3,826,317 ราย คิดเป็น 5.3%
สำหรับ 10 จังหวัดฉีดวัคซีนเข็มแรกต่ำที่สุด ในภาพรวมทุกช่วงอายุประกอบด้วย หนองบัวลำภู สุรินทร์ บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สมุทรสงคราม พิษณุโลก และศรีสะเกษ และในภาพรวมกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ประกอบด้วย ราชบุรี นครนายก ปัตตานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี แม่ฮ่องสอน นราธิวาส สมุทรสงคราม และลพบุรี
ขณะที่ 5 จังหวัด พบผู้เสียชีวิตสูงสุดที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด ได้แก่ หนองคาย พัทลุง มุกดาหาร ชุมพร นครนายก ขอความร่วมมือรีบไปฉีดวัคซีน ป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
กทม.ยังพบคลัสเตอร์โรงงาน-แคมป์คนงาน
พญ.สุมนี กล่าวถึงการพบคลัสเตอร์ในวันนี้ด้วยว่า พบคลัสเตอร์โรงงานและสถานประกอบการ ที่ กทม. ลำพูน สิงห์บุรี ชลบุรี ขณะที่คลัสเตอร์ตลาด พบที่ พิษณุโลก ขอนแก่น เชียงใหม่ ยะลา ตาก และลำพูน คลัสเตอร์แคมป์คนงาน พบที่ กทม. ปราจีนบุรี สมุทรปราการ คลัสเตอร์โรงเรียน พบที่ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ อุบลราชธานี คลัสเตอร์ค่ายทหารพบที่ ปัตตานี และคลัสเตอร์ร้านอาหารพบที่ อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี
นทท.เข้าไทยเดือน ธ.ค. สะสม 4.7 หมื่น ติดเชื้อ 63 คน
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร วันที่ 7 ธ.ค.2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 6,553 ราย จำแนกเป็น Test and Go 5,713 ราย Sandbox 681 ราย กักตัว 7 วัน 26 ราย กักตัว 10 วัน 114 ราย และกักตัว 14 วัน 19 ราย รวมสะสมผู้เดินทางเข้าประเทศ จำนวน 47,044 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย สะสมแล้ว 63 ราย
ทั่วโลกป่วยเพิ่ม 597,890 รวมสะสม 267.38 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 597,890 ราย รวม 267,387,468 ราย อาการหนัก 87,968 ราย หายป่วย 240,764,886 ราย เสียชีวิต 5,286,518 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 107,642 ราย รวม 50,270,136 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,722 ราย รวม 812,205 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 8,123 ราย รวม 34,656,506 ราย เสียชีวิตรวม 473,757 ราย บราซิล พบเพิ่ม 10,250 ราย รวม 22,157,726 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 278 ราย รวม 616,067 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 24
เสียชีวิตอีก 38 ติดเชื้อใหม่ 3,618 รักษาตัว 64,200 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.14 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดประเทศไทย ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,618 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,152,384 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 38 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 20,941 รายแล้ว
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,618 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 16 ราย ติดเชื้อในประเทศ 3,602 ราย เป็นผู้ป่วยในเรือนจำ 40 รายเป็นผู้ป่วยในจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล 1,056 ราย ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 373 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่น ๆ 2,133 ราย
ส่วนการรักษา มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 5,775 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,039,723 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 64,200 ราย เป็นผู้มีอาการปอดอักเสบ 1,217 ราย และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 371 ราย